รูปทรง

รูปทรง

Choose Your Diamond Shape – เลือกเพชรรูปทรงไหน ที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณ!

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการเจียระไนเพชร มีการเจียระไนออกมาในหลากหลายรูปแบบ ทำให้รูปทรงของเพชรก็มีมากมายด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรมาทำความรู้จักและเรียนรู้ความแตกต่างของเพชรรูปทรงต่างๆ ตามด้านล่างนี้ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกได้ว่าแหวนเพชร แหวนหมั้น แหวนแต่งงานของคุณ ควรใช้เพชรรูปทรงไหนที่บ่งบอกถึงความเป็นคุณ และเหมาะสมกับคุณมากที่สุด

Round-Cut Diamond – เพชรรูปทรงกลม
เพชรรูปทรงกลมถือได้ว่าเป็นรูปทรงแบบดั้งเดิมและได้รับความนิยมมากที่สุดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้ 80% ของการเจียระไนเพชรทั้งหมดเป็นการเจียระไนเพชรออกมาในรูปทรงกลมนี้ ลักษณะเด่นของเพชรรูปทรงกลม คือการเจียระไนแบบ Brilliant Cut* เพชรจึงมีประกายไฟมากที่สุดเมื่อกระทบกับแสงไฟ และมีมาตรฐานราคาที่ชัดเจนเป็นของตัวเองซึ่งจะแตกต่างจากเพชรรูปทรงอื่นๆ ทำให้เกิดการซื้อง่าย ขายคล่อง ในตลาดโลก นอกจากนี้แล้วยังใช้ได้ในหลายโอกาสเพราะสามารถเข้ากับชุดกับเครื่องประดับต่างๆ ได้ง่าย
*Brilliant Cut คือ เพชรที่ได้รับการเจียระไนมากกว่า 50 เหลี่ยม (อยู่ที่ประมาณ 56-59 เหลี่ยม) ทำให้สามารถสะท้อนกับแสงไฟได้อย่างสวยงาม

Princess-Cut Diamond – เพชรรูปทรงพรินเซส หรือ รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส
เพชรรูปทรงปริ้นเซสมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีมุมแหลมทั้ง 4 มุม ทำให้เครื่องประดับที่ใช้เพชรรูปทรงนี้เป็นองค์ประกอบทันสมัยกว่ารูปทรงอื่น และได้รับความนิยมรองจากเพชรรูปทรงกลม แต่ประกายระยิบระยับจะมีไม่มากเท่ากับทรงกลม เพราะใช้การเจียระไนแบบ Brilliant cut เหมือนกัน หรือมีชื่อเรียกเฉพาะว่า Square modified brilliant และมีหน้าเพชรอยู่ที่ 49-144 หน้า ซึ่งรูปทรงนี้จะนิยมมากในการทำแหวนเพชร แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน สำหรับคุณผู้ชาย

Emerald Cut Diamond – รูปทรงสี่เหลี่ยมมรกต
เพชรรูปนี้ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เจียระไนแบบ Step Cut หรือแบบขั้นบันได และมุมแหลมทั้ง 4 ด้านถูกตัดออก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเจียระไนมรกต เราจึงเรียกรูปทรงนี้ว่า “รูปทรงสี่เหลี่ยมมรกต” เพชรรูปทรงนี้ให้ประกายระยิบระยับไม่เท่ารูปทรงกลม แต่จะให้ประกายที่สว่างใสมากกว่ารูปทรงอื่นๆ และเนื่องจากเพชรมีหน้า table ค่อนข้างใหญ่ หากเพชรมีตำหนิจะทำให้มองเห็นได้ง่ายกว่ารูปทรงอื่นๆ และสีของเพชรที่เห็นจากเหลี่ยมต่างๆจะมีความแตกต่างกัน

Oval Cut Diamonds – รูปทรงรูปไข่
รูปทรงรูปไข่ ใช้การเจียระไนแบบเดียวกับเพชรรูปทรงกลม แสดงหน้าเพชรได้ถึง 58 หน้า ทำให้ได้ประกายไฟที่สวยงาม แต่ด้วยรูปทรงที่ยาวอาจจะทำให้การเล่นไฟไม่ทั่วทั้งเม็ดเหมือนทรงกลม หรือเรียกอีกอย่างว่าเกิด Bow tie และด้วยลักษณะของเพชรที่เป็นวงรี ทำให้เพชรจะดูใหญ่กว่ารูปทรงอื่นๆ เมื่อเทียบกับเพชรน้ำหนักเดียวกัน จึงทำให้เพชรรูปทรงรูปไข่นี้ก็เป็นที่นิยมในระดับต้นๆเช่นกัน

Asscher Cut Diamonds – รูปทรงกลมเหลี่ยมขั้นบันใด
เพชรรูปทรงนี้เป็นการเจียระไนดัดแปลงจากรูปทรงสี่เหลี่ยมมรกต ซึ่งจะมีการตัดมุมเหลี่ยมทั้ง 4 ด้านออกเหมือนกัน แต่ที่แตกต่างคือการเจียระไนของรูปทรงนี้จะเป็นแบบกลมเหลี่ยมขั้นบันใด คือมีหน้าตัดที่ลาดลงลึกตามขอบมุมของเพชรทำให้ดูคล้ายหลังเต่าแปดเหลี่ยม และทำให้ได้หน้า table ของเพชรที่เล็กลง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของการเปล่งประกายก็ถือได้ว่ารูปนี้นี้ให้ความระยิบระยับอยู่ในระดับเดียวกับการเจียระไนในรูปทรงกลมเลยทีเดียว

Marquise Cut Diamond – รูปทรงมาคีส์ หรือรูปทรงเมล็ดข้าวสาร
เพชรรูปทรงมาคีส์ ลักษณะของรูปทรงนี้จะเหมือนเมล็ดข้าวสาร หรือดวงตา จึงทำให้รูปทรงนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และทำให้ดูโดดเด่นมาก ในส่วนของการเจียระไนเป็นการเจียระไนแบบ Brilliant Cut เช่นเดียวกับรูปทรงกลมทำให้มีความระยิบระยับไม่แพ้กัน และด้วยความดูใหญ่เมื่อเทียบกับน้ำหนักและราคาของเพชรรูปทรงมาคีส์ กับรูปทรงอื่นๆ ทำให้หลายๆท่านสนใจเพชรรูปทรงนี้ไม่น้อยไปกว่าเพชรรูปทรงอื่นๆ

Pear Cut Diamond – เพชรรูปทรงหยดน้ำ

เพชรรูปทรงหยดน้ำนี้ ได้รับการเจียระไนแบบ Brilliant Cut ลักษณะเฉพาะ คือ ด้านหนึ่งแหลม ส่วนอีกด้านหนึ่งจะโค้งมน ซึ่งเป็นการเจียระไนผสมผสานกันระหว่างรูปทรงมาคีส์และรูปทรงไข่ ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะเหมือนหยดน้ำนี้ ส่วนใหญ่รูปทรงนี้จึงนิยมถูกนำไปทำต่างหูหรือจี้มากกว่าทำการแหวนเพชร

Heart Cut Diamond – รูปทรงหัวใจ

เพชรรูปทรงหัวใจ เป็นเพชรรูปทรงเชิงสัญญลักษณ์ แสดงถึงความรัก การเจียระไนของเพชรรูปทรงนี้ดัดแปลงจากเพชรรูปทรงหยดน้ำโดยแต่งเติมที่บนยอดหยดน้ำให้เป็นรอยเว้าที่ทำให้เกิดเป็นรูปหัวใจ ซึ่งต้องใช้ความชำนาญของช่างที่ต้องคำนวณให้แม่นยำ จึงจะทำให้ได้รูปหัวใจที่ได้สัดส่วนสวยงาม การเจียระไนรูปทรงพิเศษนี้ เจียระไนแบบ Modified Brilliant Cut ทำให้มีประกายไฟที่ระยิบระยับ เหมือนกับเพชรรูปทรงกลม แต่ประกายไฟจะน้อยกว่าเนื่องจากรูปทรงที่แตกต่างกัน
.

Radiant Cut Diamond – เพชรรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า

เพชรรูปทรงนี้เป็นนการเจียระไนผสมระหว่างเพชรรูปทรงกลม และ เพชรรูปทรงสี่เหลี่ยมมรกต ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมตัดมุมเหมือนกับ Emerald Cut แต่การเจียระไนเป็นแบบ Brilliant Cut จึงทำให้มีหน้ามากถึง 70 หน้า จึง ทำให้ได้ประกายไฟที่ดีและส่องประกายมากขึ้น

Cushion Cut Diamond – เพชรรูปทรงหมอน
เพชรรูปทรงนี้เป็นเพชรทรงสี่เหลี่ยมที่มีมุมโค้งมน ซึ่งได้รับการเจียระไนแบบผสม (Mixed cut) ระหว่าง Brilliant cut และ Step Cut ทำให้มีความแตกต่างจากรูปทรงอื่น และด้วยความที่ตรงขอบมุมเพชรกลมมน ทำให้การสะท้อนกลับของแสงในเพชรมีมากกว่าปกติ จึงทำให้เพชรรูปทรงหมอนนี้เป็นรูปทรงที่ได้รับการยอมรับในตลาดมากขึ้น

Baguette Cut Diamond – รูปทรงบาเก็ต

เพชรรูปทรงบาเก็ต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีหน้าเพชร 24 หน้า และมีความโปร่งใสของเพชรมากกว่าเพชรรูปทรงอื่นๆ นิยมนำเพชรรูปทรงบาเก็ตมาประกอบเป็นแหวนแถว หรือ นำมาประดับเสริมข้างๆเพชรเม็ดหลัก ด้วยรูปทรงหน้า table ที่ใหญ่ ทำให้รูปทรงนี้ดูมีขนาดใหญ่กว่าเพชรรูปทรงอื่นๆเมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนักเดียวกัน

Octagon Cut Diamond– รูปทรง 8 เหลี่ยม

เพชรรูปทรง Octagon ลักษณะจะเป็น 8 เหลี่ยม เป็นรูปทรงที่มีความสวยงามใกล้เคียงกับเพชรทรงกลมมากที่สุด เนื่องจากได้รับการเจียระไนอย่างละเอียดมีหน้าเพชรมากถึง 88 หน้า ทำให้เพชรรูปทรงนี้เป็นเพชรแฟนซีทรงเดียวที่มีประกายไฟดีกว่าทรงกลม และเป็นรูปทรงที่หายากที่สุด อย่างไรก็ตามทาง CELI สามารถหาให้คุณได้ หากคุณต้องการ

 

จากข้อมูลของเพชรในรูปทรงแบบต่างๆข้างต้น เราก็ได้รู้แล้วว่าเพชรแต่ละรูปทรงมีความแตกต่างกันอย่างไร และข้อมูลนี้น่าจะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อเพชรได้ตรงความต้องการของคุณ และเหมาะสมกับสไตล์ของคุณได้ไม่ยาก หากคุณค้นพบแล้วว่าคุณต้องการเพชรในรูปทรงไหนและขนาดเท่าไหร่สามารถค้นหาเพชรที่ตรงใจคุณได้ที่ https://celi-jewelry.com/advance-search/ และหากคุณมองกำลังมองหาแหวนเพชร แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน สามารถปรึกษาเราได้ฟรี เพียง add line ตามลิ้งนี้…..(ใส่โลโก้ line แล้วลิ้งเค้า line เลย)…. แล้วคุณจะได้คำตอบในทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับเพชร เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 45 ปี ในธุรกิจนี้

 

———————————————————————————————————–
Carat => รู้ขนาดเพชร Click