แหวนเพชรผู้ชาย คู่มือซื้อแบบประหยัด งบจำกัดแค่ไหนก็เอาอยู่!

แหวนเพชรผู้ชาย หนึ่งในเครื่องประดับที่เข้ากับทุกยุคทุกสมัย สวมใส่ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไร ใส่สูทตัวไหน แหวนเพชรผู้ชายจะช่วยขับราศีให้ผู้สวมดูดีมีระดับเสมอ จึงไม่แปลกใจที่แหวนเพชรผู้ชายจะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่ผู้ชายเลือกซื้อให้ตัวเอง หรือกลายเป็นของขวัญชิ้นพิเศษจากคนรัก

 

สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนซื้อแหวนเพชรผู้ชาย

1. เพชร

เพชรคือส่วนสำคัญสำหรับแหวนเพชรผู้ชาย โดยราคาของเพชรมาจากคุณลักษณะ 4Cs ตามเกณฑ์ที่กำหนดโดยสถาบัน GIA (Gemological Institute of America) ดังต่อไปนี้

• กะรัต (Carat): กะรัตหมายถึงน้ำหนักของเพชร โดยเพชร 1 กะรัตจะเท่ากับ 200 มิลลิกรัม โดยคนมักเข้าใจผิดคิดว่าขนาดความกว้างของหน้าเพชรบนแหวนเพชรผู้ชายคือกะรัตเพชร
• การเจียระไน (Cut): การเจียระไนหมายถึงสัดส่วนของเหลี่ยมเพชรแต่ละเหลี่ยม ที่ช่วยสะท้อนแสงเพชรให้เป็นประกาย เล่นไฟสวยงาม และเป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อแหวนเพชรผู้ชาย
• สี (Color): สีเพชรหมายถึงความขาวใสไร้สี โดยจะไล่ไปตั้งแต่เกรด D-Z ซึ่งเพชรเกรด D หรือเพชรน้ำ 100 จะแพงมากที่สุด อย่างไรก็ตามหลักเกณฑ์นี้ไม่จะไม่รวมเพชรสีแฟนซี เช่น เพชรสีฟ้า เพชรสีดำ หรือเพชรสีแดง เป็นต้น
• ความสะอาด (Clarity): ความสะอาดคือลักษณะตำหนิที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกเพชร โดยมีตั้งแต่เกรด IF (Internally Flawless) คือไม่มีตำหนิภายในเลย ไปจนถึง I3 (Included Inclusions) คือมีตำหนิที่มองเห็นด้วยตาเปล่า

อ่านต่อ: คู่มือเกรดเพชร 4C’s ฉบับเข้าใจง่าย เลือกซื้อเพชรได้ตรงใจ

 

2. โลหะมีค่า

นอกจากเพชรที่เป็นสิ่งสำคัญ โลหะมีค่าหรือวัสดุที่นำมาทำเป็นแหวนเพชรผู้ชายก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะมีผลโดยตรงต่อการใช้งานขณะสวมแหวน ซึ่งแหวนเพชรผู้ชายส่วนใหญ่จะนิยมเป็นสีเงินตามรายละเอียดดังนี้

 

แพลทินัม: ตัวเรือนแหวนเพชรผู้ชายที่ทำจากแพลทินัมจะมีสีเงินแวววาวในตัวเอง ไม่ต้องนำไปชุบโรเดียมเหมือนทองคำขาว มีความแข็งแรงทนทานมากที่สุด และราคาแพงมากที่สุดในบรรดาโลหะมีค่าทั้งหมด

อ่านต่อ: เจาะลึกรู้จริง แหวนแพลทินัมคืออะไร คุ้มค่าไหมถ้าจะซื้อ

 

เงิน: อีกหนึ่งตัวเรือนยอดนิยมสำหรับแหวนเพชรผู้ชายคือเงิน มีลักษณะขาวใส เนื้ออ่อนเหนียว ง่ายต่อการดัดแปลงรูปทรง ราคาไม่แพง แต่เป็นสนิมง่าย อาจเกิดอาการแพ้ผิวหนัง แต่มีราคาถูกกว่าโลหะชนิดอื่น

อ่านต่อ: แหวนเงินแท้ มีดีอะไร? ต้องซื้อแบบไหนถึงไม่โดนหลอก

 

ทองคำขาว: ตัวเรือนทองคำขาวคือการนำทองคำไปชุบโรเดียมเพื่อเปลี่ยนจากแหวนทองคำเป็นแหวนสีเงินสว่าง มีราคาถูกกว่าแพลทินัม ปรับไซซ์ง่ายกว่าแพลทินัมเพราะเนื้อโลหะนุ่มกว่า แต่ต้องชุบโรเดียมบ่อย ๆ

อ่านต่อ:  แหวนทองคำขาว หรือ แหวนแพลทินัม อะไรดีกว่ากัน

 

3. ความกว้างของแหวน

แหวนเพชรผู้ชายมักจะมีขนาดกว้างกว่าแหวนเพชรลักษณะอื่น ถึงแม้ความกว้างของแหวนจะไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่การเลือกขนาดความกว้างให้เข้ากับรูปร่างจะช่วยเสริมบุกคลิกให้ดูดีขึ้น หากเป็นผู้ชายมือใหญ่ควรใส่แหวนที่มีขนาดกว้าง ในขณะที่ผู้ชายมือเล็กควรใส่แหวนที่มีขนาดหนากำลังดี ไม่กว้างเกินไป

 

แหวนเพชรผู้ชายนิยมใส่นิ้วไหน ?

ความจริงแล้วแหวนเพชรผู้ชายสวมได้ทุกนิ้ว ไม่มีกฎบังคับตายตัว แต่ส่วนใหญ่นิยมใส่นิ้วชี้ เพราะเป็นนิ้วที่ใช้ชี้สิ่งของรอบตัว และสามารถสังเกตเห็นแหวนเพชรผู้ชายได้ง่ายที่สุด ส่วนนิ้วโป้งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องหยิบจับสิ่งของ หรือใช้มือทำงานเป็นหลัก เพราะเป็นนิ้วที่ได้รับการสัมผัสน้อยสุด ในขณะที่นิ้วก้อยแต่เดิมนิยมใส่แหวนที่เป็นตราประทับเพื่อเซ็นเอกสารทางกฎหมาย แต่ถ้าต้องการสวมแหวนนิ้วกลาง

อ่านต่อ: ใส่แหวนนิ้วไหนดี สวมแหวนนิ้วนี้สื่ออะไร

 

รูปแบบแหวนเพชรผู้ชาย

1. แหวนเพชรกลม
   แหวนเพชรผู้ชายสำหรับผู้ที่ชอบความวินเทจ เน้นแต่งตัวเป็นทางการบ่อยครั้ง แหวนเพชรกลมตัวเรือนทองคำ 18K จะช่วยเสริมบุคลิกให้โดดเด่นขึ้น อาจเพิ่มลูกเล่นเล็กน้อยด้วยเพชรตังเม็ดพอเหมาะ 3 เม็ดบริเวณบ่าแหวน

2. แหวนเพชรสี่เหลี่ยม
   แหวนเพชรผู้ชายสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นทางการ แต่ไม่ทางการมากเกินไป เน้นความเรียบโก้ ให้เลือกแหวนเพชรเม็ดเดี่ยวทรงสี่เหลี่ยม (Princess Cut) และตัวเรือนทองคำขาวหรือแพลทินัม

3. แหวนเพชรฝังสอด
   แหวนเพชรผู้ชายสำหรับสายทำกิจกรรม ควรใช้เป็นแหวนเพชรฝังสอด (Channel Setting) เพราะจะช่วยป้องกันเพชรจากการกระแทก ชน และเกี่ยวกับเสื้อผ้าได้ดีกว่าการฝังเพชรแบบอื่น เหมาะใช้เป็นแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน

4. แหวนเพชรฝังจม
   แหวนเพชรผู้ชายสำหรับหนุ่มออฟฟิศที่ต้องการความเรียบหรู มีสไตล์ ไม่มากไป ไม่น้อยไป ดูทันสมัย ควรเลือกเป็นแหวนเพชรฝังจม อาจฝังเพียง 1 เม็ด หรือจะฝังเพชร 3 เม็ดห่างกันก็ดูดีไม่แพ้กัน เหมาะเป็นของขวัญวันครบรอบ หรือวันสำคัญอื่น ๆ

 

อ่านต่อ: 8 ของขวัญวันครบรอบ สุดเซอร์ไพร์ส สำหรับคู่รักที่เบื่ออะไรแบบเดิมๆ

 

ซื้อแหวนเพชรผู้ชายอย่างไรให้ถูกลง ?

1. ซื้อแหวนเพชรผู้ชายที่มีใบรับรองจาก GIA หรือ AGS เท่านั้น
   หลายคนเข้าใจว่าการเลือกซื้อแหวนเพชรผู้ชายจากร้านที่ไม่มีใบรับรองจะคุ้มค่ากว่า โดยเฉพาะหากผู้ซื้อไม่มีความรู้เรื่องเพชรมาก่อน เพราะบางร้านอาจย้อมแมวขายเพชรเกรดต่ำในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง เช่น อาจหลอกว่าแหวนวงนี้ใช้เพชรเกรด H Color แต่ความจริงเป็นเพียง K Color เท่านั้น

2. เลือกน้ำหนักกะรัตที่เล็กลงกว่าน้ำหนักกะรัตจริงที่ต้องการ
   ราคาแหวนเพชรผู้ชายจะแพงมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับเกรดเพชรที่เลือกใช้ ซึ่งอิงตามคุณลักษณะของหลัก 4Cs อย่างไรก็ตามคุณลักษณะที่มีผลต่อราคาโดยตรง และสร้างความแตกต่างได้ค่อนข้างมาก คือกะรัตน้ำหนักเพชร เช่น แหวนเพชรผู้ชาย 1 กะรัตจะมีราคาสูงกว่าแหวนเพชรผู้ชาย 90 ตังถึง 20% โดยที่สังเกตความต่างระหว่างเพชรทั้งเม็ดไม่ออก

3. เลือกเพชรที่สังเกตเห็นตำหนิได้น้อยเมื่อมองด้วยตาเปล่า
   หากคุณไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรโดยตรง การซื้อเพชรที่มีค่าความสะอาด (Clarity) ระดับ VS2 ถือว่าเพียงพอมากแล้วสำหรับแหวนเพชรผู้ชาย เพราะมองหาตำหนิแทบไม่เจอ และไม่แตกต่างจากระดับ VVS มากเท่าไหร่นักหากมองด้วยตาเปล่า ที่สำคัญราคาก็ย่อมเยากว่ามาก และสามารถนำงบไปลงทุนกับส่วนอื่นที่สำคัญกว่าเช่นการเจียระไน (Cut) ได้

4. ไม่จำเป็นต้องเลือกเพชรเกรด D
   ถึงแม้เพชรเกรด D จะเป็นคุณลักษณะสี (Color) ที่ดีที่สุด แต่ถ้าหากงบประมาณมีจำกัด สีก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับแหวนเพชรผู้ชายเสมอไป เพราะเพชรเกรด D จะมีราคาสูงกว่าเพชรเกรด H ราว 30% แต่เมื่อคนทั่วไปมองด้วยตาเปล่าก็มองไม่ออกอยู่ดีว่าเพชรเม็ดนั้นเป็นสีเกรดใด

5. เลือกตัวเรือนแหวนเพชรผู้ชายเป็นทอง 14K หรือ ทอง 18K
   จริงอยู่ที่แพลทินัมเป็นโลหะที่มีความทนทาน แข็งแรง และมีสีเงินโดยธรรมชาติไม่ต้องผ่านการชุบใด ๆ แต่ทอง 14K และทอง 18K ที่นำไปชุบโรเดียมก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กันสำหรับแหวนเพชรผู้ชาย เช่น แหวนเพชรเม็ดเดี่ยวตัวเรือนทองคำขาว 14K อาจมีราคาเริ่มต้นที่วงละ 16,000 บาท ในขณะที่ตัวเรือนแพลทินัมอาจเริ่มต้นที่ 30,000 บาทเลยทีเดียว

6. เลือกเพชรสังเคราะห์แทนเพชรแท้
   หากต้องการเพชรเม็ดงามแต่งบซื้อแหวนเพชรผู้ชายไม่เอื้ออำนวย เพชรสังเคราะห์ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะเพชรสังเคราะห์มีคุณลักษณะทางกายภาพและเคมีเหมือนเพชรแท้ แต่ผลิตขึ้นภายในห้องแล็บ จึงมีราคาถูกกว่าเพชรธรรมชาติค่อนข้างมาก เช่น เพชรธรรมชาติ E/VS2 0.9 (เพชร 90 ตัง เกรด E Color ค่าความสะอาดระดับ VS2) อาจมีราคาสูงถึง 160,000 บาทต่อ 1 เม็ด ในทางกลับกันหากเป็นเพชรสังเคราะห์จะมีราคาราว 60,000 บาทเท่านั้น

 

อ่านต่อ: เพชรสังเคราะห์ เจาะลึกไขทุกข้อสงสัย! ต่างจากเพชรปลอมและเพชรแท้อย่างไร?

 

หากสนใจซื้อแหวนเพชรผู้ชายที่ได้มาตรฐาน คุณภาพดี ในราคาจับต้องได้ มีใบรับรองคุณภาพเพชรทุกเม็ด ต้องร้าน Celi (เซ-ลี่) ร้านเพชรชั้นนำที่คัดสรรแหวนเพชรผู้ชายแฟชั่นมาให้เลือกหลายแบบ พร้อมบริการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรีที่หน้าร้านก่อนตัดสินใจซื้ออย่างไม่ต้องกังวล เพราะที่ร้านพร้อมให้บริการอย่างเป็นกันเอง