ใบเซอร์ GIA

ใบเซอร์ GIA คำนี้มักได้ยินบ่อย ๆ เวลาเลือกซื้อเพชร แต่ใบเซอร์ GIA จะมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน หรือมีไว้เพื่อเพิ่มยอดขายให้ร้านเพชรเพียงเท่านั้น มาหาคำตอบไปพร้อมกัน

 

ใบเซอร์ GIA คืออะไร?

 ใบเซอร์ GIA คือใบรับรองคุณภาพเพชรที่ออกโดย Gemological Institute of America ซึ่งเป็นสถาบันอัญมณีที่คิดค้นเกรด 4Cs ขึ้นมา และได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในบรรดาสถาบันอัญมณีทั้งหมดเนื่องจากเป็นสถาบันที่เก่าแก่และมี Standard ในการเกรดที่สูง อีกทั้งยังช่วยยืนยันว่าเพชรที่ซื้อมาเป็นเพชรแท้ธรรมชาติ (Natural Diamond) หรือเพชรสังเคราะห์ (Lab Grown Diamond) สำหรับเพชรแท้ธรรมชาติจะมีกำกับไว้บนหัวใบเซอร์ว่า GIA แต่ถ้าเป็นเพชรสังเคราะห์ หรือ Lab Grown Diamond จะกำกับไว้ว่า LGDR (Lab Grown Diamond Report) 

         

 

อ่านต่อ: เพชรสังเคราะห์ เจาะลึกไขทุกข้อสงสัย! ต่างจากเพชรปลอมและเพชรแท้อย่างไร? 

อ่านต่อ: เพชรแท้ราคาเท่าไหร่ ซื้ออย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด?

 

ใบเซอร์ GIA ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

 ภายในใบเซอร์ GIA ด้านซ้ายมือจะประกอบด้วย วันที่ออกใบรายงาน เลขใบรายงาน (Report Number) ที่สามารถนำไปกรอกเพื่ออ่านรายงานของเพชรที่ซื้อมาบนเว็บไซต์ https://www.gia.edu/ ได้ (เฉพาะเพชรที่มาจากธรรมชาติและไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพหรือเพชรสังเคราะห์) 

 

ซึ่งเลขนี้จะช่วยยืนยันว่าเพชรที่นำมาใช้บนเครื่องประดับ เป็นเพชรเม็ดเดียวกันกับเม็ดที่เลือกจากร้านร้าน สามารถตรวจสอบได้โดยการส่องข้างขอบเพชรเพื่อเทียบเลข นอกจากนี้ยังมีรูปทรงเพชร และขนาดเพชร

 

ถัดลงมาจากช่องดังกล่าวของใบเซอร์ GIA จะเป็นคุณลักษณะ (Grading Results) ที่ใช้พิจารณาเลือกซื้อเพชร ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำหนักเพชร (Carat) สีเพชร (Color) เกรดความสะอาดเพชร (Clarity) และเกรดการเจียระไนเพชร (Cut) ซึ่งเพชรแฟนซี เช่น เพชรทรงหัวใจ เพชรทรงรี จะไม่มีเกรดการเจียระไน 

 

และช่องถัดไปจะเป็นคุณลักษณะเพิ่มเติม (Additional Grading Information) ได้แก่ ความเงาเพชร (Polish) ความสมมาตร (Symmetry) ระดับสารเรืองแสง (Fluorescence) ที่มีเยอะไปจะทำให้เพชรดูมัว และข้อความ (Inception(s)) ที่สลักไว้บนเพชรนอกเหนือจากเลข 10 หลัก โดยฝั่งขวามือของใบเซอร์ GIA จะบอกรายละเอียดของเกรดเพชรในแต่ละหัวข้อ

 

ใบเซอร์ GIA 2

ใบเซอร์ GIA จำเป็นไหม?

 จริงอยู่ที่ใบเซอร์ GIA 1 ใบ ราคาราว 1,700 – 2,800 บาทแตกต่างกันไปตามขนาดเพชร ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แต่ถ้าต้องสูญเสียเงินหลายหมื่นไปจนถึงหลายล้าน การเสียเงินหลักพันเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเพชรที่ซื้อมาเป็นของแท้ และคุณภาพตรงตามราคาที่เสียไปคงคุ้มค่ากว่าการจ่ายไปแต่ได้ในสิ่งที่ตรงกันข้ามกลับมา

 

หากถามว่าใบเซอร์ GIA จำเป็นหรือไม่ คำตอบคือจำเป็นหากเราต้องการได้เพชรที่เกรดโดยสถาบันที่มีมาตรฐานในการเกรดที่เข้มงวดและตรงไปตรงมามากที่สุด (Strict and Worldwide accepted) เนื่องจาก GIA เป็นสถาบันแรกที่คิดค้น Grading System (4C’s) และสถาบันอื่นๆจะอิงเกรดจาก GIA อีกทีนึง สถาบันอื่นๆที่จะเห็นได้บ่อยๆจะมี HRD, IGI, HKD โดยสถาบันเหล่านี้จะมี standard การเกรดที่แตกต่างไปจาก GIA  

 

ยกตัวอย่างเช่นเพชรเม็ดเดียวกันหากนำไปขึ้นใบเซอร์กับ GIA ได้เกรด J color แล้วเรานำเพชรเม็ดเดียวกันนี้ไปขึ้นเซอร์ที่ IGI จะได้เกรด H color (2 step up from GIA), หากนำไปที่ HKD จะได้เกรด F color (4 step up from GIA) เป็นต้น เพราะชะนั้นเวลาซื้อเพชรเราควรทราบว่าแต่ละสถาบันนั้นมี Grading System ที่ต่างกันกี่ระดับเพื่อที่เราจะได้เปรียบเทียบราคาได้ถูกต้องและแม่นยำ (compare green apple to green apple, not red apple to green apple) ดังนั้นราคาของเพชร F color ของ HKD จะถูกกว่าเพชร F color ของ IGI, HRD, GIA ตามลำดับ

 

ใบเซอร์ GIA เปรียบเสมือนประกันความอุ่นใจสำหรับคนที่ต้องการซื้อเพชร ซึ่งที่ CELI (เซ-ลี่) มีใบเซอร์ GIA กำกับเพชรให้ทุกการสั่งซื้อ มั่นใจได้ว่าเพชรที่ได้รับเป็นเพชรแท้ธรรมชาติอย่างแน่นอนและเป็นเพชรที่มีคุณภาพเกรดของสีและความสะอาดที่แม่นยำ นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีคอยให้คำปรึกษาตลอดการเลือกซื้ออย่างพิถีพิถัน สนใจดูเพชรเพิ่มเติมที่นี่: Diamond Search