เพชร แท้ ราคา

 

เพชรแท้ราคาเท่าไหร่? บทความฉบับนี้ Celi (เซ-ลี่) จะพาทุกคนไปสำรวจราคาเพชรแท้เบื้องต้น ที่จะให้ทุกคนเข้าใจว่าต้องมีเงินมากแค่ไหนถึงจะเป็นเจ้าของเพชรแท้ได้สักเม็ดกันนะ

 

เพชรแท้ราคา เท่าไหร่ ?

เพชรแท้ราคาเท่าไหร่ ความจริงแล้วเป็นคำถามที่กว้างพอสมควร เพราะเพชรแท้มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหลายสิบล้าน ขึ้นอยู่ว่าเพชรเม็ดน้ำหนักกะรัตเท่าไหร่ และเกรดเพชร (4Cs) ที่ได้คืออะไร ซึ่งเพชรแท้ราคาอาจเริ่มต้นเพียง 9,600 บาทเท่านั้นหากเป็นเพชรแท้ที่เกรดไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก

 

อ่านต่อ: คู่มือเกรดเพชร 4C’s ฉบับเข้าใจง่าย เลือกซื้อเพชรได้ตรงใจ

 

เพชรแท้ทรงกลม ราคาเท่าไหร่?

 

เพชรแท้ทรงกลมราคาสูงกว่าเพชรแฟนซีแท้เสมอ เพราะเพชรทรงกลมเป็นเพชรยอดฮิตตลอดกาล ซึ่งคนนิยมนำเพชรทรงกลมมาทำเป็นแหวนหมั้นและแหวนแต่งงาน 

 

อ่านต่อ: แหวนหมั้น แหวนแต่งงาน ต่างกันไหม ซื้อแบบไหนให้ตอบโจทย์งบคู่รัก

 

นอกจากนี้กระบวนการเจียระไนเพชรทรงกลมก็ทำให้สูญเสียเนื้อเพชรดิบไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเพชรแฟนซีทรงอื่น เช่น เพชร Princess cut เป็นต้น 

 

อีกทั้งยังเป็นเพชรที่เปล่งประกายมากที่สุดในบรรดาเพชรแท้ทั้งหมด เพราะสามารถเจียระไนให้เกิดเหลี่ยมเพชรได้มากถึง 58 เหลี่ยมด้วยกัน 

 

โดยเพชรแท้ทรงกลม 1 กะรัต / สี F / ความสะอาด VS1 / 3EX ราคาจะเริ่มต้นราว 299,500 บาท ในขณะที่เพชรแท้ทรงกลม 1 กะรัตที่มีคุณสมบัติเหมือนกันทุกประการแต่สี H ราคาจะเริ่มต้นราว 265,000 บาท และถ้าหากขยับเกรดลงมาเป็นสี I ราคาจะเริ่มต้นราว 220,000 บาทเท่านั้น

 

เพชรแท้แฟนซี ราคาเท่าไหร่ ?

 

เพชรแฟนซีแท้ส่วนใหญ่มักมีราคาถูกกว่าเพชรแท้ทรงกลม ซึ่งเพชรแฟนซีที่ราคาถูกสุดคือเพชร Asscher Cut ในขณะที่เพชร Pear Cut มักมีราคาสูงกว่าเพชรแฟนซีทรงอื่น 

 

เมื่อนำเพชรแท้ 1 กะรัต / สี F / ความสะอาด VS1 / Excellent Cut มาเทียบราคากันโดยมีความต่างกันที่รูปทรงจะเห็นเพชรแท้ทรง Pear Cut ราคาจะเริ่มต้นราว 245,000 บาท เพชร  Oval Cut  ราคาเริ่มต้นราว 219,000 เพชร 

 

อ่านต่อ: เพชร 1 กะรัตราคาเท่าไหร่ เลือกซื้ออย่างไรดี?

 

ในขณะที่เพชร Princess Cut ราคาจะเริ่มถูกลงมา โดยเริ่มต้นราว 180,600 บาท และเพชร Emerald Cut จะเริ่มต้นราว 167,000 บาท ส่วนเพชร Asscher Cut จะเริ่มต้นราว 155,000 บาทเท่านั้น

 

เพชร แท้ ราคา-3

เพชรแท้ราคาถูก มีไหม ?

 

เพชรแท้ราคาถูกที่สุดจะเริ่มต้นราว 9,600 บาท ซึ่งเพชรแท้ที่จะได้อาจมีเกรดที่ไม่โดดเด่นมาก เช่น เพชร Princess Cut / 18 ตัง / สี H / ความสะอาด SI1 ที่ไม่ได้เพชร 3EX เป็นต้น 

 

อ่านต่อ: รู้ก่อนซื้อ! เพชร 3EX คืออะไร? ต่างจากเพชรทั่วไปอย่างไร? 

 

จากตัวอย่างที่ยกมา ถึงแม้จะเป็นเพชรแท้ ในกลุ่มเกือบไร้สี (G-J) แต่ก็เป็นเพชรแท้ที่มีตำหนิขนาดปานกลางซึ่งส่องด้วยกล้องขยาย 10 เท่าแล้วเห็นได้ชัด และที่สำคัญไม่ใช่เพชร 3EX ที่เล่นไฟได้สวยงาม

 

ในทางกลับกันหากเป็นเพชรแท้ที่มีคุณสมบัติเดียวกันกับตัวอย่างที่ยกมา แต่เปลี่ยนจากเพชร Princess Cut เป็นเพชรทรงกลมราคาจะเริ่มต้นราว 12,400 บาท เพราะเพชรทรงกลมราคาสูงกว่าเพชรแฟนซีเสมอ

 

แต่ถ้าหากเป็นเพชร Princess Cut ตามเดิมแต่เพิ่มน้ำหนักเป็นเพชร 33 ตัง จะมีราคาเริ่มต้นราว 15,000 บาท เพราะเพชรมีน้ำหนักกะรัตเพิ่มขึ้น 

 

อ่านต่อ: กะรัตเพชร คืออะไร ซื้อกะรัตเท่าไหร่ทำแหวนหมั้น?

 

ฉะนั้นหากถามว่าเพชรแท้ราคาถูกมีไหม ‘มีแน่นอน’ แต่ไม่มีทางเล่นไฟสวยงามเทียบเท่ากับเพชรที่เกรดสูงกว่า ซึ่งเพชรแท้เกรดสูงที่เล่นไฟได้ดี ย่อมมีราคาสูงกว่า ถึงแม้น้ำหนักกะรัตจะเท่ากันก็ตาม

 

เพชรแท้ ราคาต่างจาก เพชรสังเคราะห์ หรือไม่ ?

 

เพชรแท้ราคาสูงกว่าเพชรสังเคราะห์ (Synthetic Diamonds) ราว  2 – 3 เท่า ถึงแม้เพชรสังเคราะห์จะมีคุณสมบัติเหมือนกับเพชรแท้แทบทุกประการ เพราะเกิดจากคาร์บอนไดออกไซด์เหมือนเพชรแท้ แต่ต่างตรงแหล่งที่มา 

 

ซึ่งสาเหตุที่เพชรแท้ราคาสูงกว่า เพราะต้องเสียค่าอุปกรณ์ขุดเจาะ คนงาน ค่าขนส่งจากเหมืองสู่ช่างเจียระไน และค่าขนส่งไปหาพ่อค้าคนกลาง ต่างจากเพชรสังเคราะห์ที่สามารถผลิตขึ้นมาได้ในห้องแลป ทำให้ต้นทุนเพชรสังเคราะห์น้อยกว่าเพชรแท้ และทำให้เพชรแท้มีราคาสูงกว่า  

 

เพชร แท้ ราคา-2

วิธีซื้อเพชรแท้ราคาคุ้มค่าที่สุด

 

จะซื้อเพชรแท้สัก 1 เม็ดต้องพิจารณา 4 ปัจจัยหลักได้แก่ สี (Color) ความสะอาด (Clarity) การเจียระไน (Cut) และน้ำหนักกะรัต (Carat) 

 

จริงอยู่ที่เพชร D – E – F คือเพชรไร้สี (Colorless) ที่ขาวใสมากที่สุด แต่เพชรในกลุ่มนี้มีราคาสูงพอสมควร โดยเฉพาะเพชรน้ำ 100 (D Color) ที่ราคาสูงโดดไปหลายเท่าตัว หากลองขยับลงมาเป็นเพชรสี G – I จะราคาถูกกว่าซึ่งจัดเป็นเพชรกลุ่มเกือบไร้สี (Near Colorless) ที่สังเกตความแตกต่างด้วยตาเปล่ายากพอสมควร หากไม่นำเพชรแท้ที่ต่างสีกันมาเทียบใกล้ ๆ กัน 

 

อ่านต่อ: สีเพชร และเทคนิคเลือกซื้อเพชรให้คุ้มค่ามากที่สุด

 

เช่น เพชรแท้ทรงกลม 1 กะรัต น้ำ 100 ราคาเริ่มต้นราว 140,000 บาท ในทางกลับกันเพชรคุณสมบัติเดียวกัน แต่เป็นเพชรน้ำ 96 (H Color) ราคาจะเริ่มต้นราว 117,000 บาท ยิ่งถ้านำเพชรแท้ไปประดับบนแหวนทองคำล้วน สี J – L – M ที่ออกอมเหลืองเล็กน้อยจะคุ้มค่ากว่ามาก เพราะสีของเพชรจะกลืนไปกับสีทองคำ จนไม่ทันสังเกตว่าเพชรอมเหลือง

 

ในส่วนของความสะอาด (Clarity) ให้มองข้ามเพชรแท้แบบ Flawless (ไร้ตำหนิ) ไปได้เลย เพราะราคาสูงกว่าเพชรแท้แบบ VVS1 – SI2 แน่นอน หากต้องการคุมงบให้เลือกซื้อเพชร VS1 หรือ VS2 แทน เพราะถึงแม้จะมีตำหนิ แต่เป็นตำหนิขนาดเล็กมากที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแน่นอน 

 

ในขณะที่กะรัตน้ำหนัก แน่นอนว่ายิ่งสูงยิ่งแพง ฉะนั้นหากมีกะรัตที่ต้องการในใจแล้ว ให้ลดลงมาสัก 1 ระดับ เช่น ถ้าหากต้องการเพชรแท้ 1 กะรัต ให้ซื้อเพชร 90 ตัง หรือ 95 ตัง ตังแทน เพราะมองด้วยตาเปล่าจะสังเกตแทบไม่ออก แต่ราคาต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

 

และอย่างสุดท้ายคือการเจียระไน (Cut) ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญอยู่พอสมควร เพราะมีผลต่อการเล่นไฟ ความเปล่งประกาย และความระยิบระยับของเพชรทั้งหมด แต่ถ้าต้องการคุมงบจริง ๆ ไม่ควรซื้อเพชรแท้ที่เจียระไนต่ำกว่าเกรด Good เด็ดขาด 

 

เพชรแท้ราคาเท่าไหร่ คงได้คำตอบกันไปแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งถ้าใครสนใจเพชรแท้ราคามิตรภาพ ร้านเพชร Celi (เซ-ลี่) มีเพชรแท้ราคาไม่ถึงหลักหมื่นให้ทุกคนเลือกซื้อ โดยสามารถเข้าไปเช็กราคาเพชรก่อนซื้อได้ที่นี่ Diamond Search เพียงระบุงบประมาณลงไปในช่อง Price ก็จะเห็นตัวเลือกเพชรแท้ราคาตรงกับงบของคุณ สะดวก ใช้งานง่าย ลองเลย!