ช่อดอกไม้งานแต่ง-

ช่อดอกไม้งานแต่ง อาจเป็นเพียงช่อดอกไม้ทั่วไปสำหรับสาวที่ยังไม่มีโอกาสเข้าเรือนหอ แต่ถ้ากำลังจะกลายมาเป็นเจ้าสาว ช่อดอกไม้ถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะจะช่วยขับออร่าของเจ้าสาวให้เฉิดฉายมากขึ้นขณะเดินเข้างาน ฉะนั้น แบบช่อดอกไม้งานแต่งต่อไปนี้ จะช่วยให้บรรดาเจ้าสาวตัดสินใจเลือกช่อดอกไม้ที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้น

 

ก่อนซื้อ ช่อดอกไม้งานแต่ง ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?

  • งบประมาณ
    ถึงแม้ช่อดอกไม้งานแต่งจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของงาน ฉะนั้นค่าดอกไม้ไม่ควรเกินงบที่ตั้งไว้ หากมีงบจำกัดควรเลี่ยงดอกไม้นอกฤดูกาลอย่างเด็ดขาด ซึ่งการกำหนดงบประมาณจะช่วยให้ตัดสินใจเลือกช่อดอกไม้ได้ง่ายขึ้น เพราะรู้ว่าควรใช้จ่ายเท่าไหร่
  • ฤดูกาล
    ควรเลือกดอกไม้ตามฤดูกาล เพราะราคาถูกกว่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หาได้ง่าย และที่สำคัญช่อดอกไม้แต่งงานจะสวยและทนทานกว่า เพราะไม่ต้องผ่านกระบวนการขนส่งที่อาจใช้เวลานานและทำให้ดอกไม้สูญเสียความสดในตัวเอง หรือเกิดรอยช้ำที่บริเวณกลีบดอก
  • ชุดแต่งงาน
    การกำหนดสไตล์ชุดงานแต่งที่ต้องการ จะช่วยตีวงตัวเลือกดอกไม้ให้แคบลง และช่วยให้ช่างดอกไม้จัดช่อได้ง่าย และเหมาะสมกับชุดมากขึ้น เช่น ชุดแต่งงานสีขาวล้วน และชื่นชอบดอกไม้สีขาว ช่างดอกไม้จะแซมดอกสีอื่นที่เหมาะสม ไม่ให้ช่อกลมกลืนกับชุด จนเป็นอุปสรรคสำหรับช่างภาพ และช่วยดึงความโดดเด่นของช่อดอกไม้งานแต่งออกมา หรือ ชุดแต่งงานแบบอลังการ ช่อดอกไม้ควรเด่นน้อยกว่าชุด เป็นต้น
  • กลิ่น
    ถ้าคุณแพ้กลิ่นดอกไม้ หรือไม่ชื่นชอบดอกไม้ที่มีกลิ่นแรง ควรแจ้งช่างจัดดอกไม้ตั้งแต่ต้น เพื่อให้ช่างเลือกเลี่ยงการจัดช่อดอกไม้งานแต่งด้วยดอกที่มีกลิ่นชัดเจน เช่น ดอกลิลลี่ ดอกการ์ดิเนีย ดอกไลแล็ค และดอกฟรีเซีย เป็นต้น
  • รูปร่าง
    หากคุณเป็นสาวรูปร่างใหญ่ควรเลือกช่อดอกไม้งานแต่งขนาดเล็ก ในขณะที่สาวรูปร่างเล็กควรเลือกช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงน้ำหนักของช่อดอกไม้ด้วยเช่นกัน หากหนักมากเกินไปอาจทำให้การเดินถือระหว่างงานวิวาห์ไม่ใช่เรื่องน่าอภิรมย์สำหรับเจ้าสาวเสียเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากช่อนั้นต้องโยนให้เพื่อนเจ้าสาวคนอื่น ๆ

 

อ่านต่อ: รู้ก่อนเป็น เพื่อนเจ้าสาว ต้องทำอะไร? สิ่งไหนไม่ควรทำ? ค่าใช้จ่ายมีอะไรบ้าง? 

 

แบบ ช่อดอกไม้งาน แต่งยอดนิยม

 

ช่อดอกไม้งานแต่ง-Nosegay Bouquet

1. ช่อดอกไม้โนสเกย์ (Nosegay Bouquet)

ช่อดอกไม้งานแต่งรูปแบบดั้งเดิมที่นำดอกหลากหลายชนิด หรือชนิดเดียวมามัดรวมกันให้แน่นด้วยโบเป็นช่อกลม จากนั้นตัดปลายก้านออกให้เสมอกัน มีความยาวก้านเพียงฝ่ามือครึ่ง โดยส่วนใหญ่มักใช้ใบสีเขียวแซมตัดกับดอกเป็นหลัก เหมาะกับเจ้าสาวตัวเล็ก และงานแต่งขนาดกระชับ เน้นความน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ 

 

ช่อดอกไม้งานแต่ง-Cascade Bouquet

2. ช่อดอกไม้แบบน้ำตก (Cascade Bouquet)

ช่อดอกไม้งานแต่งแบบนี้มีดอกห้อยระย้าลงมาจากมือของเจ้าสาวคล้ายน้ำตก เป็นช่อแบบเดียวกันที่ใช้ในพิธีราชสมรสของเจ้าหญิงไดอาน่าแห่งราชวงศ์อังกฤษ เหมาะกับดอกแทบทุกชนิด แต่ดอกกุหลาบ และลิลลี่จะโดดเด่นเป็นพิเศษ มักใช้ไม้เลื้อยและใบไม้สดประกอบเป็นน้ำตก เหมาะกับเจ้าสาวที่สวมชุดยาวแบบเรียบง่าย เหมาะกับเจ้าสาวรูปร่างสูงเพรียว แต่น้ำหนักช่อค่อนข้างเยอะ และถือลำบากพอสมควร

 

ช่อดอกไม้งานแต่ง-Posey

3. ช่อดอกไม้แบบโพซี่ (Posy Bouquet)

ช่อโพซี่เป็นช่อดอกไม้งานแต่งขนาดเล็ก ถือสะดวก เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบดอกสีสันสวยสด เช่น ดอกเยอบีร่า ดอกกุหลาบ ดอกทิวลิป ดอกพีโอเนีย และดอกรานันคูลัส แต่นิยมใช้ดอกไม้เพียงชนิดเดียว มัดก้านหลวม ๆ ด้วยโบ เป็นช่อที่เข้ากันได้ดีกับสาวรูปร่างเล็กที่ต้องการถือดอกไม้เพียงมือเดียว เน้นโชว์เครื่องประดับและชุดที่อลังการ เข้ากันดีกับงานแต่งแทบทุกรูปแบบ 

 

ช่อดอกไม้งานแต่ง-round

4. ช่อดอกไม้ทรงกลม (Round Bouquet)

ช่อดอกไม้ทรงกลมเป็นช่อที่อาศัยการจัดดอกไม้เรียงกันจนแน่น เกิดเป็นทรงกสมที่สมมาตร ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย  มักใช้ดอกที่มีขนาดใกล้กันเพียง 1 สีในการประกอบขึ้นมาเป็นช่อดอกไม้งานแต่ง ควบคุมงบประมาณได้ง่าย และเหมาะกับชุดแต่งงานทุกสไตล์ แต่ไม่เหมาะกับเจ้าสาวรูปร่างใหญ่ เพราะจะทำให้ดูเทอะทะมากขึ้น 

 

ช่อดอกไม้งานแต่ง-Hand-Tie

5. ช่อดอกไม้แบบกำมือ (Hand-Tie Bouquet)

ช่อดอกไม้งานแต่งที่เกิดจากการนำดอกไม้1 – 4 ชนิดมาวางรวมกันพร้อมใบไม้ จากนั้นกำช่อดอกไม้และใบไม้ขึ้นมาแบบง่าย ๆ ไม่จัดแต่งอะไรมากมาย ผูกด้วยริบบิ้นหรือเชือก เหมาะกับเจ้าสาวที่ชอบความเป็นธรรมชาติ หรือต้องการจัดงานแต่งสไตล์โบฮีเมียน หรือรัสติก เป็นช่อที่เจ้าสาวสามารถทำได้เองโดยไม่ต้องจ้างร้านดอกไม้ 

 

6. ช่อดอกไม้แบบลูกบอล (Pomander Bouquet)

ช่อดอกไม้งานแต่งรูปแบบดั้งเดิมมากที่สุดคือช่อทรงลูกบอล หรือทรงปอมปอม เป็นช่อที่นำดอกไม้ไซส์ใกล้กันมามัดกันเป็นลูกบอลทรงกลม ผูกเป็นสายคล้องแขนด้วยริบบิ้นหรือโบ ทำให้ ช่อดอกไม้แกว่งไกวไปตามจังหวะฝีเท้าของเจ้าสาว เหมาะกับเจ้าสาวบุคลิกร่าเริง สดใส และ Flower Girls หรือผู้ที่ถือตระกร้าโปรยดอกไม้นำทางเจ้าบ่าว เจ้าสาว 

 

7. ช่อดอกไม้แบบคอมโพสิต (Composite Bouquet)

ช่อดอกไม้งานแต่งที่อาศัยการจัดช่อโดยใช้กลีบดอกกุหลาบหลาย ๆ กลีบประกอบกันให้มีลักษณะคล้ายดอกกุหลาบขนาดใหญ่เพียงดอกเดียว โดยมีกุหลาบเพียง 1 ดอกอยู่ตรงกลางช่อ เหมาะกับเจ้าสาวที่อยากจัดงานแต่งในธีมวินเทจ ชวนฝัน อย่างไรก็ตามช่อดอกไม้ลักษณะนี้ต้องอาศัยช่างที่มีฝีมือพอสมควรในการจัด หากต้องการให้ช่อมีความทนทานมากขึ้น อาจเลือกใช้เป็นกลีบดอกลิลลี่แทนกลีบดอกกุหลาบ

 

8. ช่อดอกไม้แบบก้านยาว (Presentation Bouquet)

ช่อดอกไม้งานแต่งแบบนี้เหมาะสำหรับเจ้าสาวรูปร่างสูงโปร่ง ที่สวมชุดเจ้าสาวแบบกระโปรงยาวเรียบง่าย เข้ารูป สะดวกสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการใช้แขนโอบช่อ แทนการใช้สองมือถือช่อดอกไม้ มักเป็นช่อที่ใช้ดอกก้านยาว เช่น ดอกกุหลาบ ดอกกล้วยไม้ ดอกลิลลี่บางชนิด ดอกเดลฟิลเนียม เป็นต้น 

 

ถึงแม้จะมีช่อดอกไม้งานแต่งมากมายหลายแบบ แต่แบบที่ดีและเหมาะสมที่สุดคือแบบที่เจ้าสาว-เจ้าบ่าวชื่นชอบ เพราะวันแต่งงานเป็นวันสำคัญของคนสองคน รายละเอียดทั้งหมดเป็นเพียงไกด์แนะนำก่อนการเลือกซื้อเพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นเท่านั้น

 

อ่านต่อ: ของชำร่วยแต่งงานกับ 7 ความหมายที่ต้องรู้เพื่อความรักที่ยืนยาว