การ์ดงานแต่งถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้ของชำร่วย หรือซุ้มงานแต่งเลยทีเดียว เพราะเป็นการ์ดที่ใช้เชื้อเชิญแขกให้มาร่วมแสดงความยินดี และเฉลิมฉลองในงานแต่ง อีกทั้งยังบ่งบอกถึงตัวตนของคู่บ่าวสาวอีกด้วย แต่บ่าวสาวหลายคู่อาจจะยังไม่รู้ว่าจะเริ่มสั่งทำการ์ดงานแต่งอย่างไร บทความนี้จะช่วยเตรียมความพร้อมก่อนสั่งการ์ดงานแต่งได้แน่นอน
การพิมพ์การ์ดงานแต่ง มีแบบไหนบ้าง?
1. พิมพ์ดิจิตอล
การ์ดงานแต่งแบบดิจิตอลจะราคาถูกที่สุด ไม่ต้องอาศัยการผสมสีหมึกด้วยมือ และสั่งพิมพ์ผ่านคอมพิวเตอร์ เหมาะกับการ์ดงานแต่งที่ใช้สีหลากหลายเฉด
2. พิมพ์ออฟเซ็ต
การ์ดงานแต่งแบบออฟเซ็ตค่อนข้างคล้ายการ์ดดิจิตอล แต่ออฟเซ็ตจะมีราคาสูงกว่า เพราะสามารถพิมพ์เฉดสีออกมาได้ตรงตามต้องการกว่าพิมพ์แบบดิจิตอล เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพสูง
3. พิมพ์เลตเตอร์เพรส
การ์ดงานแต่งแบบเลตเตอร์เพรสจะมีลักษณะคล้ายการปั้มจม เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการความคลาสสิก และต้องการให้การมีเท็กซ์เจอร์ ไม่เน้นงานละเอียด แต่มีราคาสูงกว่าแบบอื่น เพราะทำยาก ต้องนำแม่พิมพ์โลหะมากัดผิวจนเกิดเป็นตัวอักษร แล้วจึงกดทับหมึกลงบนกระดาษ
สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนสั่งพิมพ์การ์ดงานแต่ง
- หลีกเลี่ยงการโทรสั่งการ์ดงานแต่งจะดีที่สุด เพราะอาจเกิดความผิดพลาด หากเป็นไปได้ควรไปสั่งด้วยตนเองที่โรงงานหรือร้านมากกว่า
- หากสั่งการ์ดงานแต่งออนไลน์ พยายามหาร้านที่รับแก้งานให้ฟรี ไม่คิดเงินเพิ่ม (หากเป็นความผิดที่ร้านเข้าใจผิดเอง)
- การสั่งการ์ดงานแต่งออนไลน์อาจมีสีที่ผิดเพี้ยนไปจากเฉดจริงที่เราต้องการ ขึ้นอยู่กับจอแสดงผลของแต่ละคน ฉะนั้นควรให้ทางร้านส่งตัวอย่างสีมาให้เลือก หรือไปเลือกที่ร้านจะดีที่สุด
- คู่บ่าวสาวควรสั่งการ์ดงานแต่งเผื่อไว้เสมออย่างน้อย 10 ใบ เพราะบางครั้งอาจมีรายชื่อแขกตกหล่น หรือต้องการเชิญแขกเพิ่มในภายหลัง
- ก่อนสั่งพิมพ์ควรหาคนช่วยตรวจตัวอักษรอย่างน้อย 2 – 3 คนก่อนสั่งพิมพ์จริง เพื่อกันข้อผิดพลาด และทางที่ดีควรเลือกร้านที่สามารถพิมพ์ตัวอย่างให้ดูได้ 1 ใบก่อนสั่งพิมพ์จริง
- ในกรณีที่จะเชิญทั้งครอบครัวควรระบุชื่อบนการ์ดงานแต่งให้ชัดเจน เช่น นายสมพร ลือคำ (นามสมมติ) และครอบครัว หรือ นางสมจิต ใจดี (นามสมมติ) และสามี เป็นต้น ไม่ควรส่งไปเพียงชื่อเดียวเพื่อเป็นตัวแทน เพราะอาจเกิดความกำกวม|
- หากเป็นคู่ชายหญิง จะนิยมให้เขียนชื่อเจ้าสาวนำหน้าชื่อเจ้าบ่าวการ์ดงานแต่งเสมอ หากเป็นคู่รักเพศเดียวกันจะเขียนชื่อใครก่อนก็ได้ อาจจะเรียงตามลำดับตัวอักษรก็ได้เช่นกัน
- การ์ดงานแต่งควรคุมโทนสีและรูปแบบการ์ด ให้เข้ากับธีมและโลโก้งานแต่งด้วยเช่นกัน หากเป็นไปได้ควรเลือกรูปแบบที่เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนมากที่สุด หากต้องการออกแบบการ์ดที่มีดีไซน์แปลกแตกต่าง พยายามเน้นชื่อและวันเวลาที่ต้องการจัดงานให้ชัดเจนมากที่สุด
- รายละเอียดบนการ์ดงานแต่งต้องชัดเจน ครอบคลุมทั้งวัน เวลา สถานที่ แผนที่ ธีมสีชุด วิธีการเดินทาง เบอร์ติดต่อ อีเมลที่แขกสามารถตอบกลับคำเชิญได้ และควรระบุว่าจะต้องตอบกลับล่วงหน้าอย่างน้อย 2 – 3 เดือน นอกจากนี้ควรเชิญชวนให้แขกแจ้งรายการอาหารที่แพ้กลับมาขณะตอบกลับด้วยเช่นกัน
อ่านต่อ: อาหารงานแต่ง จัดแบบนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร? และเมนูไหนที่ห้ามเลี้ยงแขก!
ตัวอย่างไอเดียการ์ดงานแต่ง
การ์ดงานแต่งที่มีรูปคู่บ่าวสาว: เหมาะกับคู่บ่าวสาวที่ชอบเปิดเผย และชื่นชอบการถ่ายรูป
การ์ดงานแต่งทูโทน: เป็นการ์ดที่เน้นความเรียบง่ายแต่ไม่น่าเบื่อ เพิ่มลูกเล่นให้มีชีวิตชีวาด้วยเฉดสีที่ตัดกัน
การ์ดงานแต่งลายดอกไม้: เหมาะสำหรับสำหรับงานแต่งที่จัดกลางสวน หรือเรือนกระจก
การ์ดงานแต่งแบบโมเดิร์น: เหมาะสำหรับงานแต่งที่จัดในห้องบอลรูม สโมสร เน้นความทันสมัยและหรูหรา
การ์ดงานแต่งแบบมินิมอล: เหมาะสำหรับงานแต่งที่เน้นความเรียบง่าย อ่านได้ชัดเจน แต่ไม่เรียบจนเกินไป
การ์ดงานแต่งสีน้ำ: เป็นการ์ดลายยอดนิยมมากที่สุด เหมาะกับงานแต่งริมทะเล และงานแต่งแทบทุกรูปแบบ
การ์ดงานแต่งที่ดีคือการ์ดที่ให้รายละเอียดครบถ้วน ชัดเจน อ่านง่าย แต่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ชวนให้จดจำ สะท้อนตัวตนของคู่บ่าวสาว และสอดคล้องกับรูปแบบงานแต่ง ซึ่งในปัจจุบันคู่บ่าวสาวให้ความสำคัญกับการพิมพ์การ์ดเชิญน้อยลง และหันมาส่งการ์ดเชิญผ่านอีเมล หรือแจ้งผ่านช่องทางโซเชียลของตนเองมากขึ้น เพราะต้องการคุมงบประมาณงานแต่ง เพื่อนำเงินไปลงทุนกับส่วนอื่น เช่น แหวนแต่งงาน เป็นต้น
อ่านต่อ: เช็คลิสต์ งบงานแต่ง แบบละเอียด พร้อมค่าใช้ปลีกย่อยที่คาดไม่ถึง และวิธีประหยัดงบ