ดอกไม้งานแต่ง

 

ดอกไม้งานแต่งเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกให้งานแต่งของใครหลายคู่ แต่จะใช้ดอกไม้งานแต่งชนิดไหนดี ดอกแบบนี้เหมาะกับธีมงานอะไร แล้วงานแต่งต้องใช้ดอกไม้ในส่วนไหนบ้าง มาดูไปพร้อมกัน

 

ดอกไม้งานแต่งต้องใช้ตอนไหนบ้าง?

  • ช่อดอกไม้สำหรับเจ้าสาว: ช่อดอกไม้งานแต่งสำหรับเจ้าสาวคือช่อดอกไม้ที่ใช้โยนให้เพื่อนเจ้าสาวรับ เพื่อลุ้นเป็นเจ้าสาวคนถัดไป หากไม่อยากเสียเงินส่วนนี้สามารถนำดอกไม้จากซุ้มงานแต่งมาจัดเป็นช่อเพื่อโยนได้
  • มงกุฎดอกไม้สำหรับเจ้าสาว: มงกุฎดอกไม้งานแต่ง จะมีหรือไม่มีก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าสาว แต่ถ้าใช้จะต้องดูแลเป็นพิเศษ และต้องไม่ให้เด่นเกินกว่าช่อดอกไม้สำหรับเจ้าสาวที่ใช้โยน เพราะถ่ายรูปออกมาจะไม่สวยเท่าไหร่
  • ช่อดอกไม้สำหรับเพื่อนเจ้าสาว: ช่อดอกไม้งานแต่งสำหรับเพื่อนเจ้าสาวถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งสำคัญ โดยเฉพาะถ้าต้องการประหยัดงบงานแต่ง แต่ถ้าหากใครอยากได้ภาพตัวเองคู่กับเพื่อนเจ้าสาวสวย ๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย
  • ดอกไม้สำหรับโปรย: ดอกไม้งานแต่งสำหรับโปรย โดยส่วนใหญ่นิยมใช้กลีบกุหลาบ แต่จะใช้เป็นกระดาษสี (Confetti) แทนก็ได้หากต้องการประหยัด
  • ดอกไม้ติดปกเสื้อเจ้าบ่าว: หากงานแต่งจัดในสวนและเจ้าสาวมีมงกุฎดอกไม้ เจ้าบ่าวก็ควรมีดอกไม้งานแต่งติดปกเสื้อเช่นกัน และไม่จำเป็นต้องเป็นช่อใหญ่โต ดอกเล็ก ๆ ดอกเดียวก็เอาอยู่แล้ว
  • ดอกไม้แต่งโต๊ะลงทะเบียน: โต๊ะลงทะเบียนเป็นด่านแรกที่ใช้ต้อนรับแขก สำหรับใครที่ไม่อยากใช้ดอกไม้งานแต่งสามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ เช่น ตะเกียง ผลไม้ ก้าน หรือแม้กระทั่งสวนในขวดแก้ว
  • ดอกไม้บนเวทีแต่งงาน: ดอกไม้งานแต่งงานในส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญที่สุดของงาน เพราะเป็นบริเวณจัดพิธีงานแต่งที่ทุกสายตาจับจ้อง และเป็นบริเวณที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวต้องถ่ายรูปเยอะมากที่สุด
  • ดอกไม้สำหรับซุ้มถ่ายรูป: อีกหนึ่งจุดที่ดอกไม้งานแต่งมีความสำคัญไม้แพ้กันคือซุ้มถ่ายรูปกับแขก ไม่ควรใช้ซุ้มขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไป ควรคำนึงถึงจำนวนแขกต่อกลุ่มที่จะต้องถ่ายรูปร่วมกัน

 

ดอกไม้งานแต่งที่นิยมใช้

ดอกไม้งานแต่ง-กุหลาบ

กุหลาบ

ปฏิเสธไม่ได้ว่ากุหลาบเป็นดอกไม้งานแต่งที่เป็นตัวแทนของถึงความรักและความสวยงาม นอกจากนี้กุหลาบยังมีหลายเฉดสีให้เลือก และมีมากกว่า 3,000 ชนิดให้เลือก อีกทั้งยังเป็นดอกไม้งานแต่งที่หาได้ทุกฤดูไม่ว่าจะหน้าฝน หน้าร้อน หน้าหนาว 

ซึ่งดอกไม้งานแต่งส่วนนิยมใช้กุหลาบ 3 ชนิดได้แก่ กุหลาบพันธุ์ผสม (Hybrid Tea Roses) กลีบดอกหนาและสีสะดุดตายาวนาน ไม่เหี่ยวเฉาง่าย กุหลาบดอกช่อ (Spray Roses) เป็นกุหลาบที่มีช่อเล็ก ๆ ห้าถึงสิบช่อในแต่ละก้าน มีลักษณะ คล้ายดอกกุหลาบปลูกในสวนตามธรรมชาติ และกุหลาบสมัยเก่า (Garden Roses) ดอกมีขนาดใหญ่ และกลิ่นหอมกว่าสายพันธุ์อื่น 

ดอกไม้งานแต่ง-ไฮเดรนเยีย

ไฮเดรนเยีย

ไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้งานแต่งที่สื่อถึงความหรูหรา เฉดสีส่วนใหญ่มักออกไปทางเข้มมากกว่าพาสเทล สีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือสีชมพูเข้ม และสีฟ้าเข้ม รองลงมาคือสีขาว เขียว และแดงเลือดหมู เป็นดอกที่ไม่มีกลิ่น เป็นดอกไม้งานแต่งที่มีราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับทิวลิปและกุหลาบ ไฮเดรนเยียนิยมใช้จัดเป็นช่อดอกไม้ ส่วนดอกเล็ก ๆ นิยมจัดเป็นช่อจิ๋วติดเสื้อสูทเจ้าบ่าว

ดอกไม้งานแต่ง-ทิวลิป

ทิวลิป

ทิวลิปเป็นดอกไม้งานแต่งที่สื่อถึงปีที่มีแต่ความสุขและความรัก เฉดสีมีให้เลือกหลากหลายไม่แพ้กุหลาบ เป็นดอกไม้งานแต่งที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ตั้งแต่จัดซุ้มทางเดิมงานแต่ง จัดช่อดอกไม้งานแต่งให้เจ้าสาว หรือใช้เป็นดอกติดสูทเจ้าบ่าว รวมไปถึงตกแต่งโต๊ะลงทะเบียน และอื่น ๆ  

ซึ่งทิวลิปที่นิยมใช้ส่วนใหญ่มี 2 ชนิด ได้แก่ ดัตช์ทิวลิป (Dutch Tulips) ดอกทิวลิปสายพันธุ์ทั่วไปที่มีขายตามร้านดอกไม้ และเฟรนช์ทิวลิป (French Tulips) ก้านยาว ดอกเรียวใหญ่ สวย แต่ราคาแพงกว่าทิวลิปอื่น 

 

สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนสั่งดอกไม้งานแต่ง

งบประมาณ

โดยส่วนใหญ่ดอกไม้งานแต่งจะใช้งบประมาณราว 10% ของงบงานแต่งทั้งหมด โดยส่วนใหญ่มักขายเป็นแพ็กเกจพร้อมแบ็กดรอป โต๊ะลงทะเบียน ป้ายโลโก้งานแต่ง และของตกแต่งอื่น โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 30,000 บาทขึ้นไป หากเป็นดอกไม้เพียงอย่างเดียวมักเริ่มต้นที่ 10,000 ขึ้นไป หากใช้เพียงแค่ซุ้มดอกไม้มักเริ่มต้นที่ 3,000 – 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนและชนิดดอกไม้ที่ใช้

ดอกไม้งานแต่ง-ปกเสื้อ

ตัวอย่างดอกไม้

อยากจัดดอกไม้งานแต่งแบบไหนควรหาแบบให้ช่างจัดดอกไม้ดูด้วยจะดีที่สุด แต่ถึงแม้จะมีรูปให้ดู ก็ไม่สามารถคาดหวังให้ช่างจัดออกมาได้ตามแบบ 100% เพราะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และดอกไม้ที่เลือกใช้ด้วยเช่นกัน และถ้าเป็นไปได้ควรนำแบบชุดแต่งงาน และรูปสถานที่ให้ช่างดู พร้อมแจ้งธีมสีงานให้ช่างทราบด้วย เพราะช่างจะได้ดีไซน์ให้ตอบโจทย์กับธีมงานให้ดีที่สุด และพยายามเปิดใจ ไม่ยึดติดกับรูปแบบที่หามาให้ช่างมากเท่าไหร่นัก 

 

ดอกตัวตายตัวแทน

ดอกไม้งานแต่งบางดอกก็มีหน้าตาคล้ายกัน และหลายคนอาจจะแยกไม่ออกด้วยซ้ำ เพราะบางครั้งฤกษ์งานแต่งที่ต้องการอาจจะไม่ใช่ฤดูเก็บเกี่ยวดอกไม้ชนิดนั้น หรือดอกไม้ที่ต้องการมีราคาค่อนข้างสูง ควรให้ช่างเลือกดอกไม้ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับดอกที่ต้องการมากที่สุด เช่น ดอกกุหลาบพันธุ์การ์เด้นท์โรสมักใช้ทดแทนดอกพีโอนี และดอกไฮเดรนเยียนิยมใช้แทนดอกสวีตพี เป็นต้น

 

ธีมงานแต่ง

ดอกไม้งานแต่งและธีมงานแต่งต้องมาคู่กันเสมอ ฉะนั้นต้องอธิบายธีมงานแต่งให้ช่างจัดดอกไม้เข้าใจมากที่สุดก่อนตกลงจ้างงาน เช่น ดอกก้านเรียวบางเมื่อนำมาจัดช่อแบบมินิมอลจะเหมาะกับงานแต่งสไตล์โมเดิร์น ช่อดอกไม้สีสดจัดหลวม ๆ เข้ากับใบไม้สีเขียวเหมาะกับธีมงานแต่งแบบรัสติก ดอกพีโอนีหรือกุหลาบจะให้ความรู้สึกคลาสสิก ในขณะที่ดอกขนาดใหญ่ สีหวาน จะช่วยเนรมิตให้งานแต่งดูโรแมนติกมากขึ้น หากไม่อยากใช้ดอกไม้เลือกใช้ผลไม้ ต้นอ่อนข้าว หรือขนนกแทนก็ได้  

 

ดอกไม้งานแต่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานแต่งที่ช่วยให้บรรยากาศโรแมนติกขึ้น แต่ไม่ใช่ส่วนสำคัญทั้งหมด หากใครมีงบจำกัด ดอกไม้งานแต่งอาจเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นมากเท่าไหร่นัก อาจเลือกใช้ดอกไม้งานแต่งสำหรับแบ็กดรอปสำหรับถ่ายรูป ก็เพียงพอแล้ว หรือถ้าใครเป็นสายประดิษฐ์จะลงมือทำดอกไม้งานแต่งด้วยตัวเองก็ยังได้ แต่ต้องเผื่อเวลาให้ดี ๆ และไม่ควรเป็นงานแต่งขนาดใหญ่ เน้นจัดที่บ้านก็พอ เพราะเจ้าสาวและเจ้าบ่าวเองก็มีหลายสิ่งที่ต้องเตรียมเช่นกัน