แหวนเงินแท้ หนึ่งในเครื่องประดับยอดฮิตตลอดกาล เพราะนอกจากจะสวมใส่ได้แทบทุกโอกาส แหวนเงินแท้ยังเป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่มีความขาวแวววาวในตัวเอง และอยู่ในงบที่ใครหลายคนเข้าถึงได้ ฉะนั้น ถ้าคุณกำลังเตรียมซื้อแหวนเงินแท้สักวงก็ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นให้ดีเสียก่อน
แหวนเงินแท้ คืออะไร?
แหวนเงินแท้ (Sterling Silver Ring) คือ แหวนที่ประกอบด้วยเงิน92.5% และส่วนที่เหลือมักผสมด้วยทองแดง (Copper) ซึ่งเหตุผลที่แหวนเงินแท้ไม่ใช้แร่เงินบริสุทธิ์ (Pure Silver) เพราะเนื้อแร่มีความอ่อนเหนียว และบิดงอได้ง่ายมากไป จึงยากต่อการทำตัวเรือนแหวน
ฉะนั้น การเพิ่มโลหะเช่นทองแดงเข้าไปในสัดส่วน 7.5% จะทำให้แหวนเงินแท้มีความแข็งแรงและคงตัวมากขึ้น โดยสัดส่วนนี้ถือเป็นที่ยอมรับได้ในระดับสากล ซึ่งแหวนเงินแท้ส่วนใหญ่ต้องมีตราประทับ เช่น 925, .925 หรือ 92.5ซ่อนอยู่ใต้แหวนเสมอ ตามแต่ข้อบังคับแต่ละประเทศ
ข้อดีของ แหวนเงินแท้
- แหวนเงินแท้มีความขาวใสแวววาว แต่ราคาถูกกว่าแหวนทองคำขาวและแหวนแพลทินัมค่อนข้างมาก
- แหวนเงินแท้มีความอ่อนเหนียวมากกว่าโลหะมีค่าชนิดอื่น จึงดัดแปลงรูปร่างได้ง่ายกว่า ทำให้ดีไซน์ค่อนข้างเยอะกว่าแหวนประเภทอื่น จึงเป็นเหตุผลที่แหวนแฟชั่นส่วนใหญ่มักเป็นแหวนเงินแท้นั่นเอง
- แหวนเงินแท้เหมาะกับผู้หลงใหลของเก่า เพราะเมื่อสวมใส่ไปช่วงหนึ่งแหวนจะเกิดรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ที่เรียกว่าพาทิน่า (Patina) แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถขัดให้ขาวแวววาวเหมือนเก่าได้
- แหวนเงินแท้เป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณต้องการแหวนตัวแทนตัวตายที่สวมใส่ได้ทุกวันโดยไม่ต้องระวังระหว่างทำกิจวัตรประจำวันมากนัก เพราะแหวนเงินแท้ราคาไม่แพง
- แหวนเงินแท้ที่ใส่ในชีวิตประจำวันมักแยกด้วยตาเปล่าแทบไม่ออกว่าเป็นแหวนเงินแท้, แหวนทองคำขาว หรือแหวนแพลทินัม
ข้อเสียของ แหวนเงินแท้
- ไม่ว่าจะดูแลแหวนดีแค่ไหน แต่แหวนเงินแท้จะถูกกัดกร่อนจนเป็นสนิมได้ง่ายกว่าแหวนแบบอื่น
- แหวนเงินแท้เกิดคราบดำหรือขุ่นมัวจนหมองได้ง่ายกว่า จึงต้องทำความสะอาดบ่อยกว่าแหวนแบบอื่น
- แหวนเงินแท้มักมีส่วนผสมของทองแดง ซึ่งผิวของคนส่วนใหญ่มักระคายเคืองต่อทองแดงได้ง่าย
- หากแหวนเงินแท้นำไปชุบโรเดียม ก็ต้องหมั่นชุบอย่างสม่ำเสมอ เพราะหลุดลอกได้ง่ายเช่นกัน
วิธีสังเกต แหวนเงินแท้ ด้วยตัวเอง
สี
ถึงแม้แหวนเงินแท้จะต้องเป็นแหวนสีขาวเงิน แลดูแวววาว ไม่อมเหลือง หรือส้ม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแหวนเงินแท้ต้องคงสภาพสีขาวไว้ตลอดเวลา เพราะแหวนเงินแท้จะเกิดคราบดำและขุ่นมัวได้ง่ายมากกว่าแหวนชนิดอื่น โดยเฉพาะหากผู้สวมใส่เหงื่อออกง่าย ยิ่งทำให้แหวนดำได้ง่ายขึ้น
ซึ่งแหวนเงินปลอมจะทิ้งรอยสีเขียวไว้บนผิวของคุณเสมอ และไม่ว่าจะนำแหวนวงนั้นมาทำความสะอาดกี่ครั้งก็ไม่มีทางทำให้แหวนดูขาวขึ้น ต่างจากแหวนเงินแท้ที่ถึงแม้จะดูหม่นหมองหรือเป็นรอยสักกี่ครั้งก็สามารถทำความสะอาด และขัดเงาให้กลับมาขาวแวววาวได้เหมือนเดิมเสมอ
กลิ่น
หากดมแหวนเงินแล้วได้กลิ่นคล้ายกำมะถัน หรือกลิ่นดูแปลกปลอมไปจากธรรมชาติ สันนิษฐานได้เลยว่าแหวนวงนั้นเป็นแหวนเงินปลอม ซึ่งกลิ่นเหล่านั้นมักเกิดจากการผสมทองแดงในอัตราส่วนที่มากเกินไป เพราะแหวนเงินแท้จะไม่มีกลิ่นใด ๆ ทั้งสิ้น
ใบรับประกันสินค้าและตราประทับ
แหวนเงินแท้ต้องมีตราประทับ 925, .925 หรือ 92.5อย่างใดอย่างหนึ่งทุกชิ้น ซึ่งตราประทับเหล่านี้อาจมีขนาดเล็กมาก จนบางครั้งต้องใช้แว่นขยายส่องดูเท่านั้นจึงจะเห็น และถึงแม้จะมีตราประทับก็ต้องมีใบรับรองสำหรับแหวนเงินแท้ชิ้นนั้นประกอบด้วยเช่นกัน
ทดสอบด้วยน้ำแข็ง
หากซื้อแหวนเงินกลับมาที่บ้านแต่ยังสงสัยว่าเป็นแหวนเงินแท้หรือไม่ ให้นำน้ำแข็ง1 ก้อนวางบนแหวนวงนั้น หากเป็นแหวนเงินแท้ น้ำแข็งจะละลายเร็วขึ้นกว่าเดิม แม้อยู่ในอุณหภูมิห้อง เพราะแร่เงินนำความร้อนได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับโลหะหรือเหล็กทั่วไป
ทดสอบด้วยผ้าขนหนู
นำผ้าขนหนูสีขาวเช็ดถูแหวนเงินเพื่อตรวจดูว่ามีคราบสีดำหลุดลอกติดผ้ามาหรือไม่ เพราะคราบเหล่านั้นเกิดจากกระบวนการออกไซด์ของแร่เงินแท้ที่สัมผัสกับอากาศจนเกิดคราบดำเกาะบนแหวน และนั่นคือสัญลักษณ์ของแหวนเงินแท้ ซึ่งคราบดำหม่นหมองเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับแหวนเงินแท้เมื่อสวมใส่ไประยะเวลาหนึ่ง
ทดสอบด้วยแม่เหล็ก
แหวนเงินแท้จะไม่ทำปฏิกิริยาใด ๆ กับแม่เหล็กทั้งนั้น ซึ่งแปลว่าแม่เหล็กไม่สามารถดูดติดกับแหวนเงินแท้ได้นั่นเอง ต่างจากเหล็ก, นิกเกิล และโคบอลต์ที่สามารถดูดติดกับแม่เหล็กได้ดี
เรียกได้ว่าแหวนเงินแท้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี หากคุณชื่นชอบแหวนที่ความขาวแวววาว แลดูคล้ายแหวนทองคำขาว และแหวนแพลทินัม แต่มีราคาถูกกว่าค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตามแหวนเงินแท้ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดหากผิวของคุณไวต่อโลหะบางชนิด และมีผิวแพ้ได้ง่าย แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อเป็นแหวนเงินแท้, แหวนทองคำขาว, หรือแหวนแพลทินัม ก็ต้องซื้อจากร้านไว้ใจได้เท่านั้น