สรุปเคล็ดลับดูตำหนิเพชรให้เป็นแบบมือโปร

บทความนี้ Celi (เซ-ลี่) จะพูดถึงในส่วนของเคล็ดลับดูตำหนิเพชรให้เป็นแบบมือโปร เพชรแต่ละเม็ดจะได้รับการคัดแยกตำหนิมาแล้วจากสถาบันและระบุอยู่ในใบเซอร์แล้ว แต่เราจะมาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เพชร 2 เม็ดที่เป็นสเปกเดียวกัน ตำหนิเหมือนกัน แต่ราคาและการเปร่งประกายแตกต่างกัน ซึ่งปัจจัยที่ว่านี้จะมีผลต่อราคา และการเปร่งประกายของเพชร ปัจจัยมีอยู่ 5 อย่าง คือ ขนาด จำนวน สี ตำแหน่ง และประเภทของตำหนิ

 

1. ขนาดของตำหนิ เพชรแต่ละเม็ดนั้นมีขนาดของตำหนิที่แตกต่างกัน ทำให้เมื่อส่องแล้วการมองเห็นชัดเจนและไม่ชัดเจนต่างกัน ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าตำหนิมีขนาดใหญ่ ส่องแล้วมองเห็นชัด ราคาก็จะถูกกว่าต่ำหนิที่มีขนาดเล็กกว่า และความสายงามของเพชรก็จะแต่กต่างกันไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นเพชร VS1 ที่มีขนาดของตำหนิเล็กกว่า ความสวยและมีราคาก็จะสูงกว่าเพชร VS1 ที่มีขนาดของตำหนิใหญ่กว่า

2. จำนวนของตำหนิ  หากตำหนิมีจำนวนมาก จะทำให้ราคาเพชรถูกลง

3. สีของตำหนิ หากมีสีดำ จะทำให้มองเห็นชัดและทำให้ราคาเพชรถูกลง

4. ตำแหน่งของตำหนิ หากอยู่ตรงกลางเพชร จะทำให้มองเห็นชัดเจนและมีผลต่อการเล่นไฟของเพชร

5. ประเภทของตำหนิ มีหลายประเภท ที่มีผลต่อความสวยงามเปร่งประกายของเพชรน้อยที่สุดก็คือ pinpoint ซึ่งเป็นตำหนิที่มีขนาดเล็กที่สุด ดูรายละเอียดชนิดของเพชรเพิ่มเติมที่นี่

 

จากปัจจัยทั้ง 5 ที่ได้กล่าวมาข้างต้น มีผลต่อความสวยและราคาของเพชร ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ ในใบเซอร์จะไม่ได้บอกทั้งหมด โดยในใบเซอร์จะระบุรายละเอียดตำหนิไว้ 2 แบบ

1.ใบเซอร์เล็กสำหรับเพชรขนาดไม่ถึง 1 กะรัต จะระบุเพียงแค่ชนิดของตำหนิเพียงอย่างเดียวเท่านั้น 

 

2.ใบเซอร์ใหญ่สำหรับเพชรขนาด 1 กะรัตขึ้นไป จะระบุเพียงแค่ชนิดและระบุตำแหน่งให้ทราบเท่านั้น

ดังนั้น สิ่งเหล่านี้คุณจึงต้องเป็นคนศึกษาเพิ่มเติมเองและสอบถามจากทางร้านให้ละเอียด ซึ่งส่วนนี้ทาง Celi (เซ-ลี่) มีผู้เชียวชาญทางด้านนี้โดยตรง สามารถบอกคุณได้ทั้งหมดว่าเพชรแต่ละเม็ดมีตำหนิเป็นอะไรบ้างและอยู่ตำแหน่งไหน โดย Celi (เซ-ลี่) ได้คัดสรรค์มาอย่างดีแล้วแล้วว่าเพชรแต่ละเม็ดจะไม่มีตำหนิที่เป็นสีดำหรืออยู่ตรงกลางของเพชร เพื่อให้เพชรดูสวยงามและเปร่งประกายระยิบระยับ