เวลาเจ้าสาว เป็นหนึ่งในไอเท็มที่สำคัญไม่แพ้ชุดแต่งงานเลยทีเดียว โดยในปัจจุบันคนไทยหันมานิยมใส่เวลมากขึ้น บ้างก็ใส่ในงานแต่งของตนเอง บ้างก็นำไปเป็นพร็อบสำหรับว่าที่เจ้าสาว ในขณะที่เจ้าสาวบางคนเลือกตัดเวลเก๋ ๆ เพื่อใส่ในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ของตัวเอง ซึ่งไกด์ไลน์ด้านล่างนี้จะช่วยให้ว่าที่เจ้าสาวเลือกเวลได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ประเภทของเวลเจ้าสาว
1. Birdcage Wedding Veil
เวลเจ้าสาวแบบ Birdcage เป็นเวลสั้นประมาณ 4 – 9 นิ้ว มีลักษณะเป็นตาข่ายบาง ๆ นิยมใช้ในงานแต่งสไตล์เรโทรยุค 50 สามารถใส่คู่กับเครื่องประดับได้หลากหลายแบบ และใส่ได้หลากหลายโอกาสที่นอกเหนือจากงานแต่งของตัวเอง
2. Blusher Wedding Veil
เวลเจ้าสาวแบบ Blush จะใช้เป็นผ้าบางเนื้อละเอียด 1 ผืน ที่สามารถพับไปด้านหลังได้ แต่จะคลุมหน้าเจ้าสาวไว้ระหว่างเดินมายังแท่นพิธี เมื่อถึงแท่นพิธีเจ้าบ่าวจะเป็นผู้เปิดเวลขึ้นมา ราว ๆ 30 นิ้ว เหมาะกับพิธีแต่งงานแบบโมเดิร์นมากกว่างานแต่งแบบ
3. Elbow Wedding Veil
เวลเจ้าสาวแบบ Elbow จะไม่ต่างจากเวล Blusher เท่าไหร่นัก โดยมีความยาวประมาณ 32 นิ้ว หรือความยาวที่คลุมศอกได้ เหมาะกับงานแต่งที่เน้นความดั้งเดิมตามขนบธรรมเนียมประเพณี
4. Fingertip Wedding Veil
เวลเจ้าสาวแบบ Fingertip จะมีความยาวประมาณ 38 – 40 นิ้ว หรือยาวเลยสะโพกลงไปเล็กน้อยคลุมหลังเจ้าสาว แต่ยังเห็นรายละเอียดชุดแต่งงานได้ชัดเจน เป็นเวลเจ้าสาวที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก
5. Knee-Length Veil
เวลเจ้าสาวแบบ Knee-Length จะมีความยาวประมาณ 48 นิ้ว เหมาะกับเจ้าสาวที่ต้องการความสง่าผ่าเผย และอลังการ โดยส่วนใหญ่มักจะตัดให้ยาวหรือสั้นกว่าหัวเข่าของเจ้าสาวเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความสูงของเจ้าสาว
6. Cathedral Wedding Veil
เวลเจ้าสาวแบบ Cathedral เหมาะกับการแต่งที่จัดในสถานที่โอ่อ่า หรูหรา หรือมีบันไดให้เดินลงราวกับอยู่ในพระราชวัง โดยมีความยาวประมาณ 108 – 120 นิ้วเลยทีเดียว เป็นเวลเจ้าสาวที่ยาวที่สุดใน
7. Bridal Cap Veil หรือ Juliet Cap Veil
เวลเจ้าสาวแบบ Juliet เป็นเวลที่มีกลิ่นอายวินเทจชัดเจน โดยมีลักษณะคล้ายผ้าคลุมผมแบบถักโครเชต์ ประดับด้วยลูกไม้ ดอกไม้ ไข่มุก และอัญมณี
8. Lace Mantilla Veil
เวลเจ้าสาวแบบ Lace Mantilla เป็นเวลจากเจ้าสาวสเปน มีลักษณะเป็นวงรีคล้ายรูปไข่ ประดับขอบด้วยลูกไม้สไตล์ฝรั่งเศษ โดยมีความยาวประมาณ 108 – 120 นิ้ว หรือยาวลากพื้นเหมือนกับเวลแบบ Cathedral
ชุดแต่งงานและเวลเจ้าสาว
เวลเจ้าสาวและชุดแต่งงานเป็นสิ่งที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เพราะฉะนั้นความลงตัวและความเข้ากันจึงสำคัญมากที่สุดโดยความยาวของเวลจะต้องมีสัดส่วนที่พอดีกับชุดแต่งงาน และไม่เด่นเกินไปจนไม่เห็นรายละเอียดบนชุด หรือไม่ขัดกับจุดรวมสายตาของชุด หากชุดมีรายละเอียดค่อนข้างมาก เวลเจ้าสาวแบบขอบเรียบจะดีที่สุด ในขณะที่ชุดแต่งงานแบบเรียบ ๆ สามารถประดับเวลเจ้าสาวด้วยลูกไม้ มุก อัญมณีอื่น ๆ ได้
ชุดเจ้าสาวแบบนี้ควรเลือกเวลเจ้าสาวแบบไหน?
- ชุดเจ้าสาวแบบเชท: ชุดเจ้าสาวแบบพอดีตัวและเข้ารูป เหมาะกับเวลเจ้าสาวที่ยาวลากพื้น หรือถ้าหากเวลยาวไม่สะดวกสำหรับเจ้าสาว ควรเลือกเป็นเวลเจ้าสาวแบบ Birdcage และ Fingertip
- ชุดเจ้าสาวแบบเมอร์เมด: ชุดเจ้าสาวที่เน้นสะโพก อก เอว ของเจ้าสาวอย่างชัดเจน เหมาะกับเวลเจ้าสาวแบบ Fingertip เพราะเป็นความยาวที่โชว์ให้เห็นชายกระโปรงได้อย่างชัดเจน
- ชุดเจ้าสาวแบบเอไลน์: ชุดเจ้าสาวที่ช่วยพรางสะโพกและขา เหมาะกับเวลเจ้าสาวที่มีความยาวตั้งแต่ 38 นิ้วลงไป หรือเวลเจ้าสาวแบบ Fingertip
- ชุดเจ้าสาวแบบฟูลเสกิร์ต: ชุดเจ้าสาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะกับเวลที่มีความยาวประมาณสะโพก แต่ถ้าหากอยากสวมเวลที่มีความยาวลากพื้น หรือแบบ Fingertip
จะเห็นได้ว่าเวลเจ้าสาวแบบ Fingertip เป็นเวลเจ้าสาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ก็ใช่ว่าแบบอื่นจะไม่สวย เพราะท้ายที่สุดเจ้าสาวควรเลือกเวลที่ตนเองชอบ สวมใส่แล้วมั่นใจ เข้ากับชุดแต่งงาน เดินเหินได้สะดวกสบาย และเข้ากับทางเดินในสถานที่จัดงานของตัวเองมากที่สุด ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าการแต่งงานจำเป็นจะต้องมีเวลเจ้าสาวเสมอไป เพราะต้องอิงกับรูปแบบและธรรมเนียมการจัดงานแต่งด้วยเช่นกัน หากเป็นพิธีแต่งแบบชาวล้านนา การใส่เวลก็ไม่จำเป็นและไม่เหมาะเท่าไหร่นัก
อ่านต่อ: เช็คลิสต์ งบงานแต่ง แบบละเอียด พร้อมค่าใช้ปลีกย่อยที่คาดไม่ถึง และวิธีประหยัดงบ