อาหารงานแต่ง-อาหารงานแต่งในสวน

อาหารงานแต่งถือเป็นสิ่งที่คู่บ่าวสาวมักให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ถือเป็นการจัดเลี้ยงเพื่อเฉลิมฉลองความรักของคู่บ่าวสาว อีกทั้งยังเป็นวิธีการต้อนรับและขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน ฉะนั้นการเลือกรูปแบบจัดเสิร์ฟอาหารงานแต่งจึงมีความสำคัญ ไม่แพ้กับการเลือกเมนูที่ช่วยส่งเสริมความรักให้ยั่งยืน ยาวนาน มั่นคง ดังรายละเอียดต่อไปนี้

 

อ่านต่อ: เช็คลิสต์ งบงานแต่ง แบบละเอียด พร้อมค่าใช้ปลีกย่อยที่คาดไม่ถึง และวิธีประหยัดงบ

 

ประเภทอาหารงานแต่งที่ต้องรู้จัก

 

อาหารงานแต่ง-อาหารงานแต่งบุฟเฟ่ต์

บุฟเฟต์

อาหารงานแต่งแบบบุฟเฟต์มักจัดวางเป็นแนวยาว เน้นเมนูที่หลากหลาย ช่วยตัดกังวลเรื่องแขกช่างเลือกได้ และแขกมีอิสระในการตักอาหารทานเองได้ตามใจชอบ แต่ต้องคำนึงถึงการต่อคิวเข้าแถวรอตักอาหารงานแต่ง ในขณะที่โต๊ะญาติผู้ใหญ่จะมีบริกรเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาเรื่องคิวตักอาหาร ควรตระเตรียมจุดตักอาหารงานแต่งให้เพียงพอกับจำนวนแขก โดยจุดตักอาหาร 1 จุดควรรองรับแขกประมาณ 50 ท่าน 

นอกจากนี้จะต้องมีพนักงานคอยแนะนำ อำนวยความสะดวกให้แขกตักอาหารได้อย่างสะดวก และคอยจัดการคิวตักอาหารให้แขกรอไม่นาน เป็นไปได้ควรเลี่ยงให้แขกตักอาหารพร้อมกันจะดีที่สุด โดยราคาของบุฟเฟต์จะแพงกว่าการเสิร์ฟแบบจานใครจานมันราว 10% – 30% เพราะไม่สามารถควบคุมปริมาณการกินของแขกได้ อย่างไรก็ตามจะประหยัดค่าบริกรและพนักงานได้มากกว่าอาหารงานแต่งแบบโต๊ะจีนถึง 20% เพราะแขกสามารถดูแลความต้องการของตัวเองได้

 

ข้อดีของบุฟเฟต์

  • แขกได้เลือกอาหารที่ต้องการทานด้วยตนเอง และเลือกได้ว่าต้องการทานปริมาณมากน้อยแค่ไหน 
  • อาหารงานแต่งแบบบุฟเฟต์ หากมีหลากหลายเมนู และจัดวางตกแต่งให้ดี เน้นอาหารสีสันสดใส จะถ่ายรูปออกมาสวยเป็นพิเศษ

 

ข้อเสียของบุฟเฟต์

  • ไม่จัดการจุดตักอาหารให้ดี แขกจะต้องต่อคิวรอนาน และวุ่นวายพอสมควร
  • โดยส่วนใหญ่จะมีราคาแพงกว่าอาหารงานแต่งแบบอื่น ยิ่งงานแต่งที่มีอาหารหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายเมนู ยิ่งมีราคาสูงขึ้นตามลำดับ

 

อาหารงานแต่ง-อาหารงานแต่งค็อกเทล

ค็อกเทล

อาหารงานแต่งแบบค็อกเทลเหมาะสำหรับคู่บ่าวสาวที่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะให้แขกคนไหนนั่งร่วมโต๊ะด้วยกันดี โดยค็อกเทลส่วนใหญ่มักไม่มีเก้าอี้นั่งทานอาหารเป็นกิจลักษณะแบบโต๊ะจีนหรือบุฟเฟต์  ไม่เน้นให้แขกทานอิ่ม แต่เน้นให้แขกได้พูดคุย พบปะ และเต้นหรือร่วมกิจกรรมอื่นตลอดงาน  

อาหารส่วนใหญ่มักจัดเป็นซุ้ม ในขณะที่บางเมนูอาจให้บริกรเดินเสิร์ฟ ซึ่งอาหารจะถูกจัดเป็นคำ ๆ ให้ถือทานได้สะดวก ซึ่งเมนูสำหรับค็อกเทลควรเน้นความหลากหลาย ทั้งมังสวิรัติและเมนูที่ไม่มีส่วนผสมของนมหรือกลูเตน เป็นต้น โดยราคาจะถูกกว่าอาหารงานแต่งแบบโต๊ะจีนและบุฟเฟต์เพราะเตรียมปริมาณอาหารน้อยกว่า 

 

อย่างไรก็ตามราคาอาหารก็ขึ้นอยู่กับขนาดของงานแต่ง และความหลากหลายของเมนู รวมไปถึงบริการที่เตรียมไว้ให้แขกด้วยเช่นกัน ซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นมักมาจากค่าบริการเสียส่วนใหญ่ หากอยากจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลประสบความสำเร็จมากที่สุด ควรแบ่งเสิร์ฟเมนูที่ต่างกันตามแต่ละช่วงของงาน เพราะการเสิร์ฟเมนูเดิมตลอดงานจะน่าเบื่อ เช่น ชั่วโมงแรกอาจเสิร์ฟ 5 เมนูเรียกน้ำย่อยที่ต่างกัน และอีกชั่วโมงถัดไปให้เสิร์ฟอีก 5 เมนูที่ต่างจากชั่วโมงแรก เป็นต้น

 

ข้อดีของค็อกเทล

  • อาหารงานแต่งแบบค็อกเทลทำให้คู่บ่าวสาวเดินทักทายพูดคุยและถ่ายรูปกับแขกได้สะดวกมากกว่า
  • เหมาะกับคู่รักที่ต้องการเชิญแขกได้หลายคนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าอาหารมากเท่าไหร่ เพราะราคาจะถูกกว่าอาหารงานแต่งแบบอื่น

ข้อเสียของค็อกเทล

  • ไม่สะดวกกับคู่บ่าวสาวที่ต้องรอบรับแขกเป็นผู้สูงอายุหลายท่าน เพราะอาหารงานแต่งแบบค็อกเทลเน้นการยืนแทบจะตลอดทั้งงาน ฉะนั้นจะต้องเตรียมที่นั่งสำหรับแขกที่ต้องการที่นั่งด้วยเช่นกัน
  • ถึงแม้ราคาอาหารจะถูกลง แต่ราคาเครื่องดื่มมักจะสูงขึ้นหากไม่ควบคุมปริมาณให้ดีพอ แนะนำให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงชนิดเดียว และเชิญชวนแขกให้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ตนเองชอบมาแบ่งกันชิมแทน

 

อาหารงานแต่ง-อาหารงานแต่งโต๊ะจีน

อาหารงานแต่งแบบโต๊ะจีน

โต๊ะจีนคืออาหารงานแต่งที่จัดเสิร์ฟเป็นโต๊ะ และคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายหัว ซึ่งคู่บ่าวสาวจะต้องมีจำนวนแขกที่แน่นอนพอสมควร เพื่อจะคำนวณค่าใช้จ่ายให้ถูกต้องมากที่สุด หนึ่งโต๊ะอาจจะมีแขก 6 – 10 ท่าน ขึ้นอยู่กับความต้องการของคู่บ่าวสาว และทั้งคู่ต้องตัดสินใจว่าจะให้แขกคนใดนั่งร่วมโต๊ะด้วยกัน ซึ่งโต๊ะหลักจะเป็นโต๊ะญาติผู้ใหญ่คนสำคัญ โดยอาหารที่เสิร์ฟจะเริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อย ตามด้วยเมนูหลัก และปิดท้ายด้วยขนมหวาน 

อาหารงานแต่งแบบโต๊ะจีนเป็นตัวเลือกที่สำหรับคู่รักที่ต้องการให้แขกนั่งอยู่กับที่  ซึ่งราคาอาหารของโต๊ะจีนเมื่อเทียบกับการเสิร์ฟแบบจานใครจานมัน จะมีราคาสูงกว่า 10% – 30% เลยทีเดียว เพราะไม่สามารถควบคุมปริมาณการกินของแขกแต่ละคนได้ อีกทั้งยังต้องเตรียมเมนูที่หลากหลายพอสมควรด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องเตรียมโต๊ะสำรองไว้เผื่อในกรณีที่แขกมาเกินจำนวนอย่างน้อย 10% อีกด้วย

 

ซึ่งนอกจากจะต้องมีจำนวนแขกที่แม่นยำ เพื่อจะได้ตระเตรียมปริมาณอาหารให้เพียงพอ ยังต้องคำนึงถึงขนาดโต๊ะเพื่อให้วางอาหาร แก้วน้ำ และอุปกรณ์ทานอาหารอื่น ๆ ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งแน่นอนว่าควรเลี่ยงการใช้จานหรือถ้วยที่มีขนาดใหญ่เทอะทะเกินไป

 

ข้อดีของโต๊ะจีน

  • เหมาะสำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการเน้นให้แขกได้กระชับความสัมพันธ์ มีปฏิสัมพันธ์ และพูดคุยกัน
  • การจัดการค่อนข้างง่ายเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องต่อคิวเข้าแถวตักอาหาร เพราะต้องนั่งทานอยู่กับที่ 
  • บรรยากาศบนโต๊ะอาหารจะเป็นกันเองมากกว่าการจัดอาหารงานแต่งแบบอื่น

 

ข้อเสียของโต๊ะจีน

  • หากจำนวนแขกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจะคำนวณค่าใช้จ่ายอาหารงานแต่งได้ยากพอสมควร
  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพราะมีทั้งค่าเช่าโต๊ะ ค่าเช่าเก้าอี้ ค่าพนักงานเสิร์ฟ ค่าโต๊ะสำรอง เป็นต้น
  • จัดแต่งโต๊ะด้วยแจกันดอกไม้อาจจะไม่เหมาะเท่าที่ควร เพราะต้องวางอาหารให้ทุกคนสามารถตักทานได้อย่างสะดวกและทั่วถึง

 

รายการอาหารแต่งที่ควรเสิร์ฟและควรเลี่ยง

นอกจากคู่บ่าวสาวจะต้องเลือกรูปแบบการเสิร์ฟอาหารงานแต่งให้เข้ากับบรรยากาศงาน แขกที่ต้องการเชิญ งบประมาณที่เตรียมไว้ และความต้องการ ทั้งคู่ต้องคำนึงถึงเมนูอาหารที่จะเสิร์ฟเพื่อเลี่ยงความอัปมงคล และเสริมสิริมงคลให้ทั้งคู่แทน ซึ่งความหมายของแต่ละเมนูเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ  

 

อาหารงานแต่งอัปมงคล

  • ข้าวต้ม: เป็นเมนูที่มักใช้ในงานศพ
  • ต้มยำ: มีปากเสียงภายในบ้านตลอดเวลา
  • ปลาร้า: ความรักไม่ยั่งยืนเพราะโดนดองจนเหม็นเบื่อกันไปเสียก่อน
  • แกงบอน: ต่างฝ่ายต่างพูดจาไม่เข้าหู ปากเสีย ปากร้ายใส่กันตลอดเวลา
  • ตีนไก่: ทำให้ทะเลาะเบาะแว้งกันถึงขั้นเลือดตกยางออก
  • หมี่กรอบ: ความรักเปราะบางและแตกหักง่าย
  • หอยขม: ชีวิตรักจะขมขื่น ไม่หวานชื่น
  • สละลอยแก้ว: ชีวิตคู่ต้องพบเจอแต่ความชอกช้ำ ระทมทุกข์

 

อาหารงานแต่งมงคล

  • ห่อหมก: พ้องเสียงกับคำว่า ‘เออออห่อหมก’ ทำให้คู่รักเห็นดีเห็นงามตามกันเสมอ ไม่ขัดแย้งกัน
  • ขนมจีบ: เมนูแก้เคล็ดให้ว่าที่บ่าวสาวรักกันเหมือนสมัยจีบกันใหม่ ๆ 
  • ขนมจีนน้ำยา: เส้นขนมจีนต้องยาว ห้ามขาด ยิ่งเส้นยาวมากยิ่งรักกันยืนยาวมากขึ้น
  • ข้าวเหนียว: ครองรักกันอย่างยาวนาน เหนียวแน่น และมั่นคง
  • ข้าวตอกน้ำกะทิ: ความรักเบ่งบาน และเป็นไปตามประเพณีอันดีงาม เหมือนข้าวตอก
  • เม็ดแมงลักน้ำกะทิ: มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ครอบครัวอบอุ่นหวานชื่น
  • ขนมชั้น: คู่ครองจะได้ดิบได้ดี มีฐานะ มีเกียรติ
  • ทองหยิบ ทองหยอด: มีทรัพย์สินมั่งคั่ง ทำมาค้าขึ้น ร่ำรวย สมบูรณ์พูนสุข 

 

ไม่ว่าจะจัดเลี้ยงอาหารงานแต่งแบบใด เตรียมอาหารหลากหลายมากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงเสมอคือปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของแขก ฉะนั้นควรจะเตรียมอาหารให้เหลือดีกว่าขาด เพราะเชื่อกันว่างานแต่งที่เสิร์ฟอาหารไม่เพียงพอ จะทำให้ชีวิตคู่กระท่อนกระแท่น ขัดสน และมีปากเสียงเสมอ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงอาหารงานแต่งสำหรับแขกที่เลือกกิน เช่น เมนูมังสวิรัติ เมนูปราศจากนมวัว เป็นต้น